การจัดการด้านอาหารในการเลี้ยงปลากระชัง - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

การจัดการด้านอาหารในการเลี้ยงปลากระชัง

บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง
การจัดการด้านอาหารในการเลี้ยงปลากระชัง เพื่อลดของเสียจากอาหารสู่แหล่งน้ำ

การเลี้ยงปลาในกระชังเป็นการเลี้ยงปลาอย่างหนาแน่นในที่กักขัง ปลาจะได้รับสารอาหารจากอาหารที่ให้เป็นหลัก ดังนั้นอาหารที่ใช้ควรเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการและมีความคงทนของอาหารในน้ำดี การแตกตัวของอาหารน้อย เนื่องจากเมื่อ อาหารตกลงสู่แหล่งน้ำจะมีกระแสน้ำไหล ทำให้อาหารแตกตัวสูญเสียไปได้มาก ซึ่งอาหารที่มีสารอาหารสูง มีการแตกตัวน้อยจะเป็นอาหารที่มีลักษณะแห้ง เช่น อาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มีความชื้นน้อยกว่า 10% ทั้งชนิดเม็ดลอยน้ำ และชนิดเม็ดจมน้ำ และไม่ควรใช้อาหารสด อาหารเปียก เช่น ไส้ไก่ ไส้ปลาทู ปลาเป็ด ปลาเป็ดบด หรืออาหารปั้น ในการเลี้ยงปลากระชัง

ความเข้มข้นของสารอาหารที่ใช้เลี้ยงปลากระชังนั้น อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาในกระชัง ควรมีคุณค่าของสารอาหารดังนี้
สารอาหารปลากินพืช
ปลากินเนื้อ
โปรตีน (%) มากกว่า
20.0
25.0
ไขมัน (%) มากกว่า
55
เยื่อใย(%)น้อยกว่า
88
เถ้า(%)น้อยกว่า
16
16
ความชื้น(%)น้อยกว่า
10
10
ขนาดเม็ดอาหาร

ขนาดเม็ดอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์น้ำควรมีขนาดเหมาะสมกับขนาดปากตามระยะการเติบโต เพื่อให้ปลาสามารถฮุบกินได้ โดยทั่วไปขนาดเม็ดอาหารที่ใช้เลี้ยงปลามีขนาดดังนี้
ปลาขนาดเล็ก 1.5-4.0 เซนติเมตร ใช้อาหารผงเกล็ดหรืออาหารเม็ดลอยน้ำขนาด 1.0-1.5 มิลลิเมตร
ปลาขนาด 25–100 กรัม ใช้อาหารเม็ด ลอยน้ำขนาด 20-25 มิลลิเมตร
ปลาขนาด 100-250 กรัม ใช้อาหารเม็ด ลอยน้ำขนาด 25-35 มิลลิเมตร
ปลาขนาดใหญ่กว่า 250 กรัม ใช้อาหารเม็ดลอยน้ำขนาดใหญ่กว่า 3.5 มิลลิเมตร

รูปแบบของอาหาร
รูปแบบของอาหารมีผลต่อการสูญเสียโภชนาการในอาหารที่จะตกค้างหรือละลายลงสู่แหล่งน้ำ โดยทั่วไปอาหารที่มีขนาดเล็กเบา เช่น อาหาร ผงและอาหารเกล็ด จะละลายและสูญเสียไปในแหล่งน้ำได้ง่ายกว่าอาหารเม็ดลอยน้ำ ดังนั้นในปลาแต่ละขนาดควรเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับระยะการเติบโต นอกจากนี้อาหารควรมีความคงทนของอาหารในน้ำได้ดีเพื่อให้มีการสูญเสียโภชนาการสู่แหล่งน้ำน้อย

ความคงทนของอาหาร
อาหารที่ดีควรมีความคงทนของอาหารในน้ำมากกว่า 80 % และมีเปอร์เซ็นต์ลอยของอาหารในน้ำมากกว่า 90% ทดสอบได้โดยนำเอาอาหารเม็ดชนิดลอย 100 เม็ด ใส่ในแก้วใสแช่น้ำ ไว้ 30 นาทีนับจำนวนเม็ดที่จมและสังเกต สีและความขุ่นของน้ำ ถ้าน้ำขุ่นหรือเปลี่ยนสีแสดงว่าสารอาหารละลายน้ำออกไปเหลือแต่กาก

No comments
Back to content