การอนุบาลและต้นทุนการเลี้ยง
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงปลาแรดในกระชัง
การอนุบาลลูกปลาแรด
บ่ออนุบาลลูกปลาควรมีขนาด 400-800 ตารางเมตร โดยปล่อยในอัตรา 100,000 ตัว/ไร่ ส่วนบ่อซีเมนต์ 5 ตัว/ตารางเมตร ในช่วง 10 วันแรกที่ลงบ่อดินให้ไรแดงเป็นอาหารและ10 วันต่อมาให้ไรแดงและรำผสมปลาป่นอัตราส่วน 1:3 สาดให้ทั่วบ่อ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นอาหารต้มหรืออาหารเม็ดลอยน้ำวันละประมาณ 3-5เปอร์เซ็นต์ อนุบาลจนกระทั่งลูกปลามีขนาด 3 นิ้ว เพื่อนำไปเลี้ยงเป็นปลาขนาดตลาดต้องการต่อไป ลูกปลา 1 เดือนจะมีขนาดยาวประมาณ 1 ซม. เดือนที่ 2 จะมีความยาว 2-3 ซม. ซึ่งจะเป็นขนาดลูกปลาที่จะนำไปเลี้ยงเป็นปลาโตต่อไป
ปัจจุบันลูกพันธุ์ปลาแรดหาซื้อได้จากฟาร์มเอกชนหรือจากแหล่งเพาะขยายพันธุ์ปลาทั่วไป และบางส่วนได้จากการรวบรวมลูกปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
ต้นทุนในการทำกระชังเลี้ยง
ปลาแรดการเลี้ยงปลาแรดในกระชังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยการเปลี่ยนจากกระชังไม้มาเป็นกระชังเนื้ออวนเหมาะสมกับภาวะปัจจุบัน ซึ่งขาดแคลนไม้ในการสร้างกระชัง ดังนั้นการเตรียมสถานที่เลี้ยงปลาในกระชังจะต้องสร้างแพพร้อมทั้งมุงหลังคากันแดด ส่วนใหญ่แพที่สร้างจะใช้ไม้ไผ่มัดรวมกัน และเว้นที่ตรงกลาง ให้เป็นช่องสี่เหลี่ยมเพื่อนำกระชังตาข่ายไปผูก โดยปกตินิยมทำกระชังขนาดกว้าง 3 วา ยาว 6 วา ลึก 1.8 เมตร กระชังขนาดดังกล่าวสามารถเลี้ยงปลาแรดขนาด 3 นิ้ว ได้ 3,000 ตัว เบื้อง
ต้นการลงทุนสร้างแพ 1 หลัง และซื้อตาข่ายทำกระชัง 3 กระชัง คิดเป็นเงินราว 30,000 บาท โครงสร้างกระชังที่ใช้เลี้ยงปลา ประกอบด้วย
1. โครงร่างกระชัง ส่วนมากเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอาจทำด้วยไม้ไผ่ ไม้ ท่อเหล็กชุบ หรือ ท่อน้ำพีวีซี.
2. ตัวกระชัง เป็นส่วนที่รองรับและกักกันสัตว์น้ำให้อยู่ในพื้นที่จำกัด วัสดุที่ใช้ได้แก่ เนื้ออวน จำพวกไนลอน โพลีเอทีลิน หรือ วัสดุจำพวกไม้ไผ่ ไม้เนื้ออ่อน ไม้เนื้อแข็ง
3. ทุ่นลอย เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพยุงให้กระชังสามารถลอยน้ำอยู่ได้ สามารถรับน้ำหนักของตัวกระชัง สัตว์น้ำที่เลี้ยงและเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาที่ลงไปปฏิบัติงานบนกระชัง สำหรับอายุการใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ดังนี้
- กระชังไม้ไผ่ จะมีอายุการใช้งาน 1-2 ปี
- กระชังไม้เนื้อแข็งจะมีอายุการใช้งานไม่ น้อยกว่า 5 ปี
- กระชังอวน จะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-4 ปี
บริเวณที่เหมาะสมแก่การวางกระชังนั้น จำเป็นต้องตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสภาพดี น้ำมีคุณสมบัติเหมาะสมในการเลี้ยงปลา ควรอยู่ห่างไกลจากแหล่งระบายน้ำเสียหรือน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม และที่สำคัญแหล่งน้ำนั้นต้องไม่มีปัญหาการเกิดโรคปลา
No comments