การจำหน่าย
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงปลาแรดในกระชัง
การป้องกัน
การเลี้ยงปลาแรดในบ่อดินมักจะประสบปัญหาตัวปลามีกลิ่นโคลน แต่ถ้าเลี้ยงในกระชังจะไม่มีปัญหาดังกล่าว เนื่องจากน้ำมีการถ่ายเทตลอดเวลา สำหรับการแก้ไขกลิ่นเหมื่นโคลนในเนื้อปลา โดยการเปลี่ยนน้ำพร้อมทั้งควบคุมคุณภาพน้ำและอาหารที่เลี้ยงปลาในช่วงก่อนจับประมาณ 3 วัน
โรคและศัตรูปลาแรด
การเลี้ยงปลาแรดไม่ปรากฏว่ามีโรคระบาดร้ายแรง จะมีบ้างเมื่อลูกปลายังมีขนาดเล็ก คือ เชื้อรา ส่วนศัตรูตามธรรมซาติก็มีบ้าง เนื่องจากปลาแรดเป็นปลาที่มีนิสัยเชื่องช้า จึงมักตกเป็นเยื่อของปลาอื่นที่กินเนื้อเป็นอาหาร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า เช่น ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาบู่ ปลากราย ปลากะสง นอกจากนี้ยังมีกบ เขียด ตะพาบน้ำ เต่า และนกกินปลา เป็นต้น
การจำหน่าย
ปลาที่มีอายุ 1 ปี จะน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่ตลาดต้องการ ส่วนปลาที่มีอายุ 3 ปี ควรทำการคัดเลือกปลาที่มีความสมบูรณ์เพื่อเก็บไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์
การจับ ลำเลียง และขนส่งพันธุ์ปลาแรด
ฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาจะขายลูกปลาให้แก่ผู้ซื้อไปเลี้ยงเป็นปลาใหญ่ 2 ขนาด คือ ปลาขนาด 2-3 ซม. ซึ่งใช้เวลาอนุบาล 1 เดือน และ ปลาขนาด 5-7 ซม. ใช้เวลาอนุบาล 2 เดือน ก่อน
การขนส่งจะจับลูกปลามาพักไว้ในบ่อ แล้วพ่นน้ำเพิ่มออกซีเจน และงดอาหาร ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้ลูกปลาเคยชินต่อการอยู่ในที่แคบ และขับถ่ายอาหารที่กินเข้าไปออกให้มากที่สุด การลำเลียงนิยมใช้ถุงพลาสติกขนาดปริมาณ 20 ลิตร ใส่น้ำ 5 ลิตร บรรจุลูกปลาขนาด 2-3 ซม. ในอัตรา 500-2,000 ตัว/ถุงอัดออกซิเจน หากลูกปลาโตขนาด 5 ถึง 7 ซม. ควรใส่ปีบหรือถัง ลำเลียงในอัตรา 200-300 ตัว/ปีบ (น้ำ 10-15 ลิตร)
ทั้งนี้ในระหว่างการลำเลียงควรใส่ยาเหลืองในอัตรา 1–3 ส่วนในล้าน หรือเกลือใน อัตรา 0.1-0.2% เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และป้องกันเชื้อราที่จะเกิดขึ้นเมื่อปลาเกิดบาดแผลในระหว่างการเดินทาง ก่อนปล่อยปลาลงในที่ใหม่ต้องแช่ถุงลำเลียงลูกปลาในน้ำประมาณ 15 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมให้กับลูกปลา
ต้นทุนและผลตอบแทน
การเลี้ยงปลาแรดให้ได้ขนาดตามที่ตลาด ต้องการใช้ระยะเวลา 1 ปี ปลาจะมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม โดยการลงทุนประมาณ 30 บาท สามารถจำหน่ายได้ 50-80 บาท เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนกับกำไร โดยลงทุน 12,479 บาท กำไร 4,000 บาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะได้กำไร 32 ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูง
No comments