ปลาทับทิม ริมน้ำป่าสัก
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง
ปลาทับทิม ริมน้ำป่าสัก สระบุรี 40 กระชัง ถ้าน้ำดีกำไรเป็นล้าน
เมื่อก่อนผมเคยเป็นช่างซ่อมรถ มอเตอร์ไซค์ประจำอยู่ที่ศูนย์ฯ มีรายได้ เดือนละ 5,000 กว่าบาท ต่อมาปี ผมลาออกมาเป็นพ่อค้ารับซื้อ ปลาทับทิมตามกระชัง แล้วเอาไปขายต่อให้กับลูกค้าในตัวจังหวัด และในอำเภอใกล้เคียง ช่วงนั้น ผมมีรายได้ดีกว่าอาชีพเดิมเป็นสิบเท่า แต่อาชีรับส่งปลาให้กับพ่อค้า ต้องออกตระเวนจับปลากันแทบทุกวัน เพราะมีออเดอร์ ลูกค้าขาประจำที่ต้องส่งให้บางครั้ง ปลาทับทิมที่ได้จากแหล่งผลิตก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ผมจึงแก้ปัญหาด้วยการหันมาเพาะเลี้ยงปลาทับทีมเอง เพื่อแก้ปัญหาปลาขาดตลาด โดยเลี้ยงในกระชังบริเวณหลังบ้านริมแม่นาป่าสักครับ”
คุณนันทภพ เมฆดำ เจ้าของฟาร์มปลาทับทิมในกระชัง ตั้งอยู่เลขที่ 19/8 หมู่ 11 ตำบลเสาไห้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี กล่าวถึงจุดเริ่มต้นให้ทีมงานเฉพาะกิจฟัง
มีปลาให้จับทุก 15 วัน
ก้าวแรกของการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง คุณนันทภพเล่าว่า หลังจากตนเข้ามาเป็นพ่อ ค้ารับซื้อปลาทับทิมในกระชังไปขายให้กับลูกค้าตามออเดอร์ ต่อมาเกิดปัญหาปลาขาดตลาด เนื่องจากตลาดปลาทับทิมเป็นตลาดที่กว้างและผู้บริโภคให้ความนิยมค่อนข้างสูง จนทำให้บางวันตนไม่มีปลาไปส่งให้กับลูกค้าและถูกต่อว่าอยู่บ่อยครั้ง ตนคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ลูกค้าที่
ซื้อขายกันอยู่ประจำต้องหันไปรับปลาจากที่อื่นแน่ ปี 2548 จึงตัดสินใจเพาะเลี้ยงปลาทับทิม ในกระชังและตระเวนรับซื้อปลาจากแหล่งอื่นควบกันไปด้วย
“เริ่มแรกผมทดลองเลี้ยง 7 กระชัง โดยศึกษาหาความรู้ด้านการเลี้ยงจากผู้รู้และพัฒนา ระบบการเลี้ยงการจัดการ ตลอดจนเทคนิคการผลิตที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผิดลองถูกอยู่หลายปี ก่อนจะประสบความสำเร็จ และขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 47 กระชังครับ ปกติปลาทับทิมสามารถเลี้ยงได้ 2-3 รุ่นต่อปี โดย 1 รุ่นใช้เวลาประมาณ 4 เดือน แต่ตอนนี้ผม เลี้ยงปลาทับทิมในลักษณะหมุนเวียน โดยมีปลาลงเลี้ยงในกระชังตลอดทั้งปี และมีปลาให้จับทุก
15 วัน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นอนุบาล ไปจนถึงรุ่นที่พร้อมจับส่งตลาดครับ” คุณนันทภพ กล่าว
น้ำถ่านเทดี ออกซิเจนสูงรอด 70-80 เปอร์เซ็นต์
แม่น้ำป่าสักเป็นแหล่งน้ำที่มีความเหมาะสมในการเลี้ยงปลาในกระชัง เพราะเป็นแหล่งน้ำที่มีการถ่ายเทเกือบทั้งปี และไม่อยู่ติดกับโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำเน่า เสีย แต่ถึงกระนั้นในบางฤดูที่น้ำนิ่งแม่น้ำจะมีค่าออกซิเจนต่ำ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องอัดอากาศ เติมออกซิเจนลงไป โดยใช้ควบคู่กับเครื่องตีน้ำ
ในรอบปีเปอร์เซ็นต์การเลี้ยงรอด จะขึ้นอยู่กับฤดูกาลเป็นสำคัญ ตัวอย่างเช่น หน้าฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กันยายน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีน้ำท่วมกันทั่วไป ปลาทับทิมที่นี้จะกินอาหารดีโตไว และได้น้ำหนัก เพราะน้ำถ่ายเทดี มีปริมาณออกซิเจนในน้ำสูง อัตราเสียงรอดจะอยู่ราว 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูที่น้ำนิ่งน้ำไม่เดินอย่างช่วงนี้ (ธันวาคม) เลี้ยงรอดได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าเก่งแล้วล่ะครับ (หัวเราะ) คุณนันทภพกล่าวพลางยิ้มพลาง
No comments