การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง
การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง
ปลาทับทิม เป็นปลาที่มีอัตราการเจริญเติบโตดีเหมาะสมในการเลี้ยงเพื่อเป็นธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์เลี้ยงแบบกระชังที่มีน้ำไหล นอกจากนี้คุณภาพของเนื้อ ทั้งในด้านรสชาติและเนื้อสัมผัสก็อยู่ในเกณฑ์ดีและยังให้เปอร์เซ็นต์ ซากที่สูง (เมื่อแล่แล้วได้เนื้อมากมีส่วนที่ต้องทิ้งน้อย) ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ปลาชนิดนี้มีแนวโน้มทางการตลาดค่อนข้างดี
จึงมีเกษตรกรนิยมเลี้ยงปลาชนิดนี้มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาโรคที่จะเกิดขึ้น เกษตรกรควรจะให้ความสนใจในเรื่องต่างๆดังนี้
ในสถานที่ในการวางกระชัง
บริเวณที่เลือกเพื่อวางกระชังนั้นจะต้องเป็นที่ที่มีระดับน้ำลึกพอประมาณ โดยที่ตลอดระยะเวลาในการเลี้ยง พื้นกระชังควรอยู่สูงจากพื้นดินใต้น้ำไม่ต่ำกว่า 1 เมตร และควรจะห่างจากชายตลิ่งพอควรเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดมุมอับ ในการไหลระบายของน้ำ และเพื่อลดภาวะเครียด จากการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำอย่างฉับพลันในขณะที่มีฝนตกและมีการชะล้างจากพื้นดินสู่น้ำระดับน้ำในกระชังไม่ น้อยกว่า 1 เมตร (ขึ้น กับความหนาแน่นในการปล่อย) ห่างจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 1 เมตร
กระชังและรูปแบบกระชัง
กระชังควรทำจากวัสดุที่ไม่สร้างความระคายเคืองแก่ผิวหนังปลา และไม่ควรวางกระชังซ้อนกันหลายๆใบควรมีช่องว่างเพื่อการไหลระบายของน้ำ ถ้ามีความจำเป็นจะต้องเรียงซ้อนกันแนวเดียวกันหลายๆ กระชังก็ควรจะวางในแนวที่ขวางกระแสน้ำ นอกจากนี้รูปแบบของกระชังจะต้องเอื้ออำนวยให้ง่ายในการปฏิบัติงาน
กระชังควรมีขนาด 3X3X2.5 เมตร หรือ 4X4X2.5 เมตร หรือ5X5X2.5 เมตร ซึ่งเป็น ขนาดที่ง่ายต่อการจัดการ ใช้ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร เป็นเหล็กหรือพลาสติกก็ได้ทำเป็นทุ่นลอย ตัวโครงกระชังจะใช้เหล็กหรือไม้ขึ้นอยู่กับสถานที่และทุนของผู้ประกอบการ อวนที่ใช้เลี้ยงปลาต้องใช้อวน 2 ซั้น ซั้นในขนาดของตาอวน ควรเป็น 2-3 เซนติเมตร ซั้นนอกขนาดของตาอวนควรจะมีขนาด 6-7 เซนติเมตร เพื่อป้องกันมิให้ปลาที่อยู่นอกกระชังมารบกวนปลาที่เราเลี้ยงแล้วใช้อวนขนาดตา 7 เซนติเมตร ปิดด้าน บนกระชังเพื่อป้องกันการกระโดดออก หรือกระชังเอียงเวลามีคลื่นลมและน้ำไหลแรง
คูณภาพลูกปลาและการขนส่ง
ลูกพันธุ์ปลาที่น้ำมาปล่อยเลี้ยงควรจะซื้อมาจากฟาร์มที่มีความน่าเชื่อถือปลาเพศผู้ 100% หรือใกล้เคียงที่สุด มีการเตรียมลูกพันธุ์ในฟาร์มเพาะเป็นอย่างดีแข็งแรงขนาดตัวสม่ำเสมอ และที่ฟาร์มเพาะมีการสุขาภิบาล(ความสะอาด)ดี มีพ่อ-แม่พันธุ์ที่มีการคัดสายพันธุ์มาเป็นอย่างดี โดยเกษตรกรสามารถทราบข้อมูลเหล่านี้ได้โดยการซักถาม และสั่งเกตขณะอยู่ที่ฟาร์มการขนส่งลูกพันธุ์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีการลดอุณหภูมิช่วยโดยการใช้น้ำแข็ง และไม่ควรขนส่งในช่วงกลางวันที่แดดจัด หากทำได้ก็จะลดภาวะเครียดลงได้เป็นอย่างมาก อัตราการตายหลังปล่อยจะต่ำและเสียหายน้อย
No comments