ประเทศจีนยังต้องการมาก
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงปลากดในกระชัง
“หลังจากเดือนที่ 5 เป็นต้นไปผมจะใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปเบอร์ 2 โปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ และสลับมาใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปเบอร์ 3 โปรตีน 25 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเดือนสุดท้าย โดยให้กินวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ปกติอาหารเม็ด เบอร์ 3 ผมจะให้ในช่วงระหว่างรอจับขาย ทั้งนี้ การลดโปรตีนลงมา สามารถลดต้นทุนได้ด้วย เพราะอาหารมีราคาถูกกว่า ในขณะเดียวกันถ้าเราอัดอาหารโปรตีนสูงๆ ปลามันอ้วนก็จริง แต่มีไขมันเยอะ ถ้าลดลงมาเป็นอาหารเม็ดเบอร์ 3 ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไขมัน นอกจากให้ความสำคัญเรื่องอาหารแล้ว ผมยังมีวิตามิน ยาถ่าย พยาธิและขมิ้นชันให้ปลากินทุกๆ 3 เดือน เพื่อเป็นการบำรุงและป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยครับ” จ.ส.อ.(พิเศษ)วิสูตร แนะ
ปลากดหลวง 19 กระชัง คาดมีกำไรกว่าครึ่งล้าน
พูดถึงตลาดและความต้องการปลากด หลวงในบ้านเรา จ.ส.อ.(พิเศษ)วิสูตร บอกว่าตลาดโดยทั่วไปเป็นกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรม ส่วนใหญ่จะมีพ่อค้าจากต่างจังหวัด เข้ามารับซื้อถึงหน้ากระชัง ซึ่งประกอบด้วยพ่อค้าที่มาจากจังหวัดสกลนคร ระยอง ปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ น่าน เชียงราย และเชียงใหม่ โดยนำไปส่งตามร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำตามหัวเมืองต่างๆ
“ผมเลี้ยงปลากดหลวงตั้งแต่อนุบาลจนถึงจับขายใช้เวลา 16 เดือน โดยส่วนใหญ่ต้นทุนจะอยู่ที่ค่าพันธุ์ปลาและค่าอาหาร เริ่มแรก อนุบาลปลาตัวขนาดเท่าหลอดกาแฟก็ตัวละ 3 บาท อนุบาลจากตาข่ายสีฟ้าแล้วถ่ายลงกระชังตาข่ายสีส้มคิดเป็นต้นทุนตัวละ 15 บาท หลังจากนั้นก็เลี้ยงต่อไปจนกระทั่งจับขาย ตอนนี้ต้นทุนไม่ต่ำกว่า 40,000 บาทต่อกระชัง เนื่องจากอาหารเม็ดสำเร็จรูปมีราคาสูงขึ้น ปกติผมจะขายปลาได้เฉลี่ย 60,000-70,000 บาทต่อกระชัง โดยจะมีกำไรอยู่ประมาณ 20,000-30,000 บาทต่อกระชัง ผมคิดว่า 19 กระชังน่าจะมีกำไร
ไม่ต่ำกว่า 500,000 แต่ขึ้นอยู่กับตัวแปร สำคัญคือ ต้นทุนค่าอาหารครับ” จ.ส.อ.(พิเศษ) กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ประเทศจีนยังต้องการเยอะ
การซื้อขายปลากดหลวงในช่วงที่ผ่านมา จ.ส.อ.(พิเศษ) วิสูตร บอกว่า ตั้งแต่ตนเริ่มเลี้ยงมาราคาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ระยะหลังราคาเริ่มลด เนื่องจากชาวบ้านหันมาเลี้ยงกันมากขึ้น จึงทำให้ปลากดหลวงมีเยอะขึ้น พ่อค้ามีตัวเลือกเยอะขึ้น
“โดยเฉพาะผู้เลี้ยงที่ร้อนเงินต้องการนำเงินมาชำระหนี้ จากเงินที่กู้มาลงทุนเลี้ยงปลาซึ่งจะมีการดัมฟ์ราคาลงมาเพื่อจูงใจพ่อค้า เมื่อพ่อค้ารู้ว่าตรงไหนราคาถูกเขาก็ไปซื้อตรงนั้น ในกรณีนี้ถ้าไม่มีการกำหนดราคาที่เป็นมาตรฐานเมื่อลดราคาลงมาคนเลี้ยงที่มีสายปานยาวๆ มีทุนเลี้ยงก็ต้องลดราคาตามไปด้วย จริงๆการซื้อขายต้องทำให้มีราคากลาง หรือราคาที่เป็นมาตรฐาน เพราะมันเกี่ยวเนื่องไปถึงการส่งออก ยกตัวอย่าง ราคาปลากิโลกรัมละ 100 บาท ก็ต้องตั้งไว้ที่ 100 บาท โดยมีการปรับราคาขยับขึ้นตามราคาอาหารเม็ด ในอดีตมีคนเคยส่งออก ปลากดหลวงไปยังประเทศจีน ซึ่งประเทศดังกล่าวมีความต้องการเป็นจำนวนมาก แต่มีปัญหาตรงที่ราคายังไม่นิ่ง” จ.ส.อ.(พิเศษ)วิสูตร บอก
No comments