ออกซิเจนดีปลากดหลวงโตเร็ว
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงปลากดในกระชัง
“ในระหว่างที่ผมเลี้ยงปลาทับทิมและปลานิลในกระชัง ผมสามารถส่งขายได้ทั้งตลาดในจังหวัดและต่างจังหวัด โดยมีพ่อค้ามารับชื่อถึงบ้านและให้ราคาตามที่ตกลงกัน ต่อมาก็เกิด
ปัญหามีโรคที่มากับน้ำทำให้ปลาทับทิมและปลานิลตายเป็นจำนวนมาก ผมจึงเปลี่ยนมาเลี้ยงปลากดหลวงแทน เพราะทนโรคได้ดีกว่าปลาทั้ง 2 ชนิด และมีราคาดีกว่าด้วย ย้อนกลับไปตั้งแต่ ปี 2545 ปลากดหลวงมีราคาขยับสูงขึ้นอย่างต่อ เนื่อง จนกระทั่งราคามาหยุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท (ไซซ์ตัวละ 3-4 กิโล) ในช่วงปี 2551-2552 แต่ปัจจุบันราคาลดลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 85-90 บาท เนื่องจากมีการเลี้ยงอย่างแพร่หลายในลุ่มน้ำทางภาคเหนือครับ”
เลี้ยงปลากดหลวงจะให้ดี ต้องมีค่าออกซิเจน 6.5-6.8
ปัจจุบัน จ.ส.อ.(พิเศษ) วิสูตร มีกระชังเลี้ยงปลาทั้งหมด 37 กระชัง แต่ใช้เลี้ยงจริงอยู่ 24 กระชัง แบ่งเป็นปลากดหลวง 19 กระชัง และปลานิล 5 กระชัง เจ้าตัวบอกด้วยว่า กระชังส่วนใหญ่เป็นกระชังที่เคยเลี้ยงปลาทับทิม โดยมีความกว้าง ความยาวและความลึกของกระชัง อยู่ที่ 3X3X2.60 เมตร ซึ่งในแต่ละกระชัง สามารถปล่อยปลากดหลวงได้ในอัตราส่วน 200-250 ตัว ในส่วนนี้ จ.ส.อ.(พิเศษ)วิสูตร ได้คัดเลือกเฉพาะกระชังที่มีสภาพดีที่สุดและอยู่ติดกับแหล่งน้ำมากที่สุด เนื่องจากปลากกดหลวงชอบน้ำลึกและน้ำเย็น โดยมีกระแสน้ำไหลผ่านตลอดเวลา ถ้าจะให้ดีต้องมีค่าออกซิเจนอยู่ 6.5 - 6.8 ซึ่งปลาจะกินอาหารได้ดีและมีความสมบูรณ์มาก
“การเลี้ยงปลากดหลวงวิธีการก็คล้ายๆปลาทับทิมและปลานิลนั้นแหละครับ เมื่อได้ลูกพันธุ์ปลาจากศูนย์วิจัยและพัฒนา ประมงน้ำจืดเชียงใหม่ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 1.5 – 2 นิ้ว (ขนาดเท่าหลอดกาแฟ) ผมก็นำมาอนุบาล ในกระชังตาถี่สีฟ้าประมาณ 2 เดือน จากนั้นก็จะเปลี่ยนมาลงกระชังตาข่ายสีส้มสำหรับอนุบาล ปลาเล็ก ซึ่งมีตาอวนใหญ่ขึ้นมาหน่อย เลี้ยงต่อ ไปอีก 2 เดือน พอปลาเริ่มโตขนาดไม่ต่ำกว่า นิ้วก็จะถ่ายลงกระชังเลี้ยงปลาใหญ่ ตาอวน ขนาด 1 เซนติเมตร ซึ่งเป็นตาข่ายเบอร์ 18 แต่ก่อนจะปล่อยปลาเลี้ยงต้องตรวจดูสภาพกระชัง ให้ดี อย่าให้มีรอยชำรุด ปกติแต่ละกระชังผมจะ ซ้อนตาข่าย 2-3 ชั้น โดยใช้ตาข่ายใหม่ใส่ตรงกลาง ส่วนตาข่ายเก่าอยู่รอบนอก” จ.ส.อ.(พิเศษ) วิสูตร กล่าว
เลี้ยงด้วยอาหารเบอร์ 3 หมดกังวลเรื่องไขมัน
สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงปลากดหลวง จ.ส.อ.(พิเศษ) วิสูตร บอกว่า ตนใช้อาหารกบที่เป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูป โดยให้กินในช่วงอนุบาลเป็นเวลา 2 เดือน พอเข้าเดือนที่ 3 จะเปลี่ยนเป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปเบอร์ 0 โปรตีน 40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตเป็นเวลา 2 เดือน แล้วจึงเปลี่ยนเป็นอาหรสำเร็จรูปเบอร์ 1 โปรตีน 32 เปอร์เซ็นต์
No comments