กบนาลงตัวกว่า
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง > การเลี้ยงกบในกระชัง
กบนาลงตัวกว่า
เมื่อมองเห็นช่องทางการตลาดคุณลุงสุวิจักษณ์ จึงหาวิธีเพิ่มปริมาณกบให้มากขึ้น โดยเลือกใช้แม่พันธุ์กบตัวใหญ่สีเหลืองมาเป็นแม่พันธุ์ ซึ่งเป็นที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือและทางด้านทิศตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่อยไปจนถึงตอนกลางของประเทศ เมื่อโตเต็มที่กบชนิดนี้จะมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม มีความยาวถึง 8 นิ้ว ลำตัวกว้าง ส่วนหัวสีเขียวเหลือง ผิวหนังขรุขระ มีปุ่มเล็กๆ อยู่ที่ส่วนหลัง ไม่มีสันขางตัว แต่จะมีสันตรงด้านหลังของแก้วหูที่ขามีจุดสีน้ำตาลประปราย บางตัวท้องอาจมีสีคล้ำหรืดำ
กบบูลฟร็อกตัวผู้ มีวงหูใหญ่กว่าตา ในช่วงฤดูสืบพันธุ์ลำตัวมีสีเข้มขึ้นและที่ใต้คางมีสีเหลือง หรือสีเหลืองปนเขียว ไม่มีถุงเสียง แต่มีกล่องเสียงทำให้สามารถส่งเสียงร้องดังคล้ายวัว ส่วนตัวเมียมีวงหูเล็กกว่าตา ลำตัวมีสีอ่อนใต้คาง มีสีขาวครีม ส่วนท้องอูมและมีขนาดใหญ่ แต่ระหว่างนั้นคุณสุวิจักษณ์ก็พบว่าข้อจำกัดของกบบูลฟร็อกคือ ยังไม่เป็นที่นิยมของตลาดในเมืองไทยและต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานถึง 6 เดือน ซึ่งต่างจากกบนาที่ใช้ระยะเวลาสั้นกว่าเพียง 3 เดือน ก็สามารถจับขายได้แล้ว เมื่อรู้ว่ากบบูลฟร็อกยังไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ผมก็หันมาเลี้ยงกบนาแทน โดยไปซื้อสายพันธุ์จากจังหวัดร้อยเอ็ด ตอนนั้นผมซื้อมามา 10 คู่ๆ ละ 100 บาท ซึ่งกบเหล่านั้นมีเป็นกบนาแท้ๆ และเป็นกบลูกผสม พอถึงเวลาคัดสายพันธุ์กบผมก็จะคัดกบตัวที่มีหัวสีเขียวออก เพราะเป็นกบสายพันธุ์บูลฟร็อก ตัวมันใหญ่เกินความต้องการของตลาด ทุกครั้งในการคัดเลือกสายพันธุ์ผมจะคัดแยกกบนาและกบบูลฟร็อกออกจากกันไว้ต่างหาก ผมจะเลี้ยงเฉพาะกบนาครับ” คุณสุวิจักษณ์กล่าวถึงการคัดเลือกพันธุ์
" ช่วงแรก คุณสุวิจักษณ์เลี้ยงกบในบ่อปูน และเลี้ยงกบในกระชังบ่อดิน แต่ปรากฏว่าการเลี้ยงกบในกระชังบ่อดินมักมีปัญหาเรื่องการถ่ายน้ำไม่สะดวก สมัยนั้นคุณสุวิจักษณ์เลี้ยงกบอยู่ประมาณ 50 กระชัง เป็นกระชังขนาด ความกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร ความสูงของน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร ปล่อยลูกกบลงเลี้ยงในอัตราส่วน 3,000 ตัวต่อกระชัง โดยนำแผ่นยางที่ใช้ตัดทำรองเท้ามาวางในกระชัง เพื่อให้กบขึ้นมายึดเกาะ
ผมใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3 เดือนก็จับขายได้ ส่วนใหญ่ 1 กระชัง สามารถเลี้ยงกบได้รุ่นต่อปี ต่อมาผมก็คิดค้นหาวิธีเลี้ยงกบแบบใหม่ๆ จนกระทั่งพัฒนามาเป็นกระชังบนดินหรือกระชังบก ซึ่งเลี้ยงกบได้สะดวกกว่าวิธีอื่นๆเพราะกบสามารถกินอาหารได้อย่างทั่วถึง ทำให้อาหารไม่เสียหายและสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สามารถติดตั้งและใส่น้ำเพื่อนำลูกกบมาลงเลี้ยงได้ทันทีไม่ต้องรอนานเหมือนบ่อปูนและบ่อดิน ซึ่งต้องรอให้ฆ่าเชื้อเสียก่อน ทั้งนี้กระชังบกยัง เหมาะกับผู้ที่อยากทดลองเลี้ยง เนื่องจากต้นทุนต่ำมาก เริ่มต้นเพียง 500-2,500 บาทต่อกระชัง” เจ้าของฟาร์มกล่าว
No comments