คุณภาพน้ำในกระชัง
บทความ > การเลี้ยงปลาในกระชัง
ชนิดของปลาน้ำจืด
1. ปลาน้ำจืด การเลี้ยงปลาน้ำจืดในกระชัง เป็นของราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำลำคลองในแถบจังหวัดภาคกลางที่ต้องการรายได้เสริม นอกเหนือจากการทำไร่ทำนา จังหวัดนครสวรรค์เป็นแหล่งที่มีการเลี้ยงปลาในกระชังมากที่สุด ปลาชนิดต่างๆที่นิยมเลี้ยงในน้ำจืด เช่น ปลาทับทิม ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาบู่ ปลาชะโด ปลานิล และปลาช่อน
2. บริเวณชายฝั่งทะเลทั้งทางด้านอ่าวไทยและชายฝั่งด้านทะเลอันดามัน นอกจากจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และเจริญเติบโตของสัตว์น้ำกร่อยแล้ว ยังเป็นแหล่งที่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์ชายฝั่งอย่างหนาแน่นอีกด้วย ทั้งนี้เพราะการเลี้ยงปลาในกระชังมีการลงทุนต่ำกว่าการขุดบ่อและไม่ต้องใช้พื้นที่มาก ผลผลิตค่อนข้างสูง ง่ายต่อการดูแลรักษา และจับขึ้นจำหน่าย นอกจากนั้นยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพของน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาด้วย ปัจจุบันปลาน้ำกร่อยที่นิยมเลี้ยงกันมากมีอยู่ 2 ชนิด คือ ปลากะรัง และปลากะพงขาว เนื่องจากปลาสองชนิดนี้เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว และมีราคาสูง และพันธุ์ปลายังหาซื้อได้จากสถานีประมง หรือจากฟาร์มเอกชนได้สะดวก
ความสำคัญของคุณภาพน้ำในการเลี้ยงสัตว์น้ำ
น้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลี้ยงสัตว์น้ำ เพราะสัตว์น้ำใช้น้ำเป็นที่อยู่อาศัยในการกระทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเจริญเติบโตและแพร่ขยายพันธุ์ ในอดีตการเลี้ยงสัตว์น้ำไม่คำนึงถึงความสำคัญของคุณภาพน้ำมากนัก เนื่องจากสภาพน้ำตามแหล่งธรรมชาติในระยะนั้นมีความเหมาะสมต่อการดำเนินชีพของสัตว์น้ำเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบันสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป
เนื่องจากการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการขยายตัวของย่านชุมชนที่อยู่อาศัย กิจกรรมเหล่านี้ได้นำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ ทำให้แหล่งน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหมาะสมต่อการนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก รวมทั้งเป็นอันตรายต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ จึงทำให้พบเหตุการณ์ที่มีสัตว์น้ำในแหล่งน้ำต่างตายเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจการประมงของประเทศ
ดังนั้นการเลี้ยงปลาในกระชังจึงควรทราบถึงคุณภาพน้ำที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ โดยองค์ประกอบทางกายภาพของน้ำที่มีความสำคัญต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คือ
ความขุ่น อุณหภูมิ สี การระเหยของน้ำ แสง ปัจจัยเหล่านี้ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศวิทยาของแหล่งน้ำ ส่วนคุณภาพน้ำทางเคมีเช่น ออกซิเจน แอมโมเนีย ไนไตรท์ ฟอสเฟต เป็นต้น เป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลผลิตทางชีวภาพ การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำด้านใดด้านหนึ่ง จะทำให้คุณภาพน้ำด้านอื่นๆเปลี่ยนแปลงไป มีผลให้สัตว์น้ำตายได้ ซึ่งการทราบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำจะทำให้
1. สามารถป้องกัน แก้ไขปัญหาที่อาจ เกิดขึ้นกับสัตว์น้ำ
2. เมื่อเกิดปัญหาจะทำให้ทราบสาเหตุของปัญหา และหามาตรการป้องกันแก้ไขในระยะยาวได้
3. เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการเลือกสถานที่ และการเลือกแหล่งน้ำ เพื่อใช้ในการดำเนิน กิจกรรมต่างๆ
4. ทำให้พัฒนาเทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้สอดคล้องกับศักยภาพของแหล่งน้ำ
คุณภาพที่ควรคำนึงถึงคือ
No comments