การเลือกซื้อลูกปลาดุกมาเลี้ยง - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

การเลือกซื้อลูกปลาดุกมาเลี้ยง

บทความ > การเพาะและการเลี้ยงปลาดุก
การเลือกซื้อลูกปลาดุกมาเลี้ยง

ในกรณีที่ผู้เลี้ยงไม่ได้เพาะพันธุ์ลูกปลาเองจะต้องหาซื้อลูกปลาจากที่อื่นมาเลี้ยง ก่อนที่จะซื้อลูกปลามาเลี้ยงทุกครั้งควรได้พิจารณาถึงแหล่งเพาะพันธุ์ ซึ่งแหล่งเพาะพันธุ์ที่ดีนั้นมีลักษณะดังนี้ คือ จะต้องมีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ทั้งในเรื่องคุณภาพและจำนวนลูกปลา มีการคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เพื่อให้ได้ลูกปลาที่มีคุณภาพ โตเร็ว ต้านทานต่อโรคได้ดี และควรมีความชำนาญในการขนส่งลูกปลาเพื่อให้ลูกปลาบอบช้ำและเครียดน้อยที่สุด ทำให้มีอัตราการรอดตายสูงขึ้น นอกจากนี้เครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆในการเพาะพันธุ์ควรมีการรักษาความสะอาดไม่ใช้ปะปนกัน และมีการฆ่าเชื้อโรคอยู่เสมอ มีการป้องกันและควบคุมโรคที่ดี และมีการติดตามประเมินผลลูกปลาที่ได้จำหน่ายให้กับเกษตรกรไปแล้ว

สำหรับลักษณะของลูกปลาจะต้องสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรงดี โดยสังเกตได้จากลักษณะภายนอก เช่น การว่ายน้ำต้องปราดเปรียว ไม่ว่ายควงสว่านหรือเสียการทรงตัว ไม่ลอยหัวหรือนอนนิ่งอยู่กับพื้นบ่อ ลำตัวต้องสมบูรณ์ หนวด หางและครีบไม่กร่อน ไม่มีบาดแผลตามบริเวณลำตัว ไม่มีจุดหรือขุยสีขาวเกาะ ไม่พิการ สีของลูกปลาไม่ซีดเหลือง ผิวของลำตัวเป็นมัน ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป และขนาดของลูกปลาจะต้องสม่ำเสมอกัน ซึ่งลูกพันธุ์ปลาดุกที่นิยมซื้อขายกันมีอยู่หลายขนาดด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เลี้ยงจะต้องการลูกปลาขนาดไหนไปเลี้ยง มีดังนี้

1. ปลาลูกไร เป็นปลาขนาดเล็กที่สุด มีอายุประมาณ 7-8 วัน มีขนาดประมาณ 1-1.2 เซนติเมตร ผู้ผลิตลูกปลาดุกจะจับขายประมาณวันที่ 10 หลังจากปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงในบ่อเพาะ ลูกปลาที่จับมาได้จะยังอาศัยอยู่ในหลุมและยังอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ปลา การขายจะประมาณจำนวนกันด้วยวิธีตวง โดยผู้ซื้อจะต้องนำปลาลูกไรไปอนุบาลให้ได้ขนาดปลาคว่ำบ่อหรือปลาเซนต์เสียก่อนจึงจะนำไปปล่อยลงเลี้ยงในบ่อต่อไป

2. ปลาคว่ำบ่อ เป็นปลาที่ผู้เพาะนำเอาลูกปลาที่ช้อนขึ้นมาจากรังหรือปลาลูกไรมาอนุบาลนานประมาณ 14-15 วัน จะได้ลูกปลาขนาด 2-3 เซนติเมตร แล้ววิดบ่อจับลูกพันธุ์ปลาขายให้ผู้ซื้อโดยไม่ต้องมีการคัดขนาด ผู้เลี้ยงปลาส่วนใหญ่ใช้ลูกปลาเหล่านี้เลี้ยงไปจนเป็นปลาขนาดที่ตลาดต้องการ

3. ปลาเซนต์ เป็นลูกปลาขนาดโตที่ผู้เลี้ยงชื้อมาจากผู้อนุบาลอีกทีหนึ่ง เป็นปลาขนาดที่ผู้เลี้ยงนิยมนำไปเลี้ยงมากที่สุด ซึ่งขนาดของปลาเซนต์ แบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือ

3.1 ลูกปลาขนาด 3-5 เซนติเมตร เป็นลูกปลาที่มีอายุประมาณ 30–35 วันนับจากวันที่ช้อนขึ้นมาจากรัง โดยที่ผู้อนุบาลลูกปลาจะเลี้ยงจากปลาลูกไรจนลูกปลามีอายุ 4-5 สัปดาห์ก็จะได้ลูกปลาขนาดดังกล่าว ซึ่งในการจำหน่ายจะมีการคัดขนาดโดยใช้ตะแกรงร่อนปลาหรือถังคัดขนาดปลา

3.2 ลูกปลาขนาด 5-7 เซนติเมตร เป็นลูกปลาที่มีอายุประมาณ 40-45 วันนับจากวันที่ช้อนขึ้นมาจากรัง โดยที่ผู้อนุบาลลูกปลาจะเลี้ยงจากปลาลูกไรต่อไปจนได้ลูกปลาขนาดที่ต้องการ การจำหน่ายจะใช้ถังคัดขนาดปลาเป็นเครื่องมือในการคัดขนาด

4. ปลาวัยรุ่น เป็นปลาขนาดโตที่มีขนาดตั้งแต่ 20-30 ตัวต่อกิโลกรัม ซื้อขายกันโดยการชั่งน้ำหนัก แต่ปลาวัยรุ่นไม่เป็นที่นิยมทำการซื้อขายกันในหมู่ผู้เลี้ยงปลาดุกมากนัก

สำหรับผู้ที่ไม่เคยเลี้ยงปลาดุกมาก่อนหรือผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ใน แนะนำให้ซื้อลูกพันธุ์ปลาดุกตั้งแต่ขนาด 5-7 เซนติเมตรขึ้นไปมาปล่อยลงเลี้ยง เพราะเป็นปลาที่มีขนาดโตพอสมควรแล้ว สามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมที่ผันแปรได้ดีกวาปลาชนิดอื่น เมื่อนำมาปล่อยลงเลี้ยงจะได้จำนวนลูกปลาที่รอดตายสูง สำหรับราคาอาจแปรผันไปตามขนาด ฤดูกาลและปริมาณของลูกพันธุ์ปลาในแหล่งผลิตนั้นๆ

No comments
Back to content