โรคจุดขาวและโรคตัวด่าง
บทความ > การเพาะและการเลี้ยงปลาดุก > โรคปลาดุกและการป้องกันรักษา
4. โรคจุดขาว เป็นโรคที่พบบ่อยในช่วงอากาศหนาว ปลาที่เกิด โรคนี้จะมีจุดสีขาวขุ่นขนาดเท่าหัวเข็มหมุดเล็กๆกระจายอยู่ตามลำตัว ครีบ เหงือก และบางครั้งจะพบอยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอก อาการของโรคระยะสุดท้ายคือ ปลาจะมีสีผิวซีดลง ครีบเปื่อย ว่ายน้ำเฉื่อยชา มีอัตราการตายสูงมาก สาเหตุเกิดจากเชื้อโปรโตซัวชนิด Ichyopthirus multifillis หรือเรียกสั้นๆว่า อิ๊ค ซึ่งเมื่อเชื้อนี้เจริญเต็มวัยแล้วจะออกจากตัวปลาจมลงสู่บริเวณก้นบ่อ สร้างเกราะหุ้มตัวเองแล้วแบ่งเซลล์ภายในเกราะเมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม เกราะจะแตกและตัวอ่อนก็จะว่ายเข้าหาตัวปลาต่อไป
การป้องกันรักษา การรักษาจะต้องทำอย่างต่อเนื่องโดยการใช้ฟอร์มาลีน 25 ซีซี.ต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร ใส่ลงในบ่อที่มีปลาป่วยทุกๆ 3 วัน เป็นเวลาติดต่อกัน 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย แต่ละครั้งที่ใส่จะต้องงดการถ่ายน้ำนาน 48 ชั่วโมง ดังนั้นในระยะเวลาที่แช่ฟอร์มาลีนจำเป็นที่จะต้องลดปริมาณ ไรแดงหรืออาหารที่ลูกปลากินเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในบ่อเน่าเสีย แล้วจึงทำการถ่ายน้ำบางส่วนในวันที่ 3 แล้วเติมฟอร์มาลีนช้ำอีก ทำเช่นนี้จนกระทั่งครบ 3 ครั้ง
5. โรคตัวต่าง เกิดจาก การติดเชื้อ Flexibacter columnaris ทำให้เกิดอาการแผลด่างขาวเป็นแถบตามลำตัว เมื่อขูดเมือกปลาบริเวณรอยด่างมาตรวจ จะพบเชื้ออยู่รวมกันคล้าย กองฟาง และถ้าเกิดโรคเป็นระยะเวลานานแผลด่างขาวนี้จะกลาย เป็นแผลลึกได้ โรคนี้มักเกิดกับลูกปลาหลังจากเริ่มปล่อยประมาณ 1-3 วัน สาเหตุเนื่องจากลูกปลาได้รับความบอบช้ำจากการขนส่งแล้วติดเชื้อ ดังกล่าวหรือในช่วงที่อุณหภูมิของอากาศมีการเปลี่ยนแปลงจากสูงไปต่ำ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคจะเจริญได้ดีและทำอันตรายต่อปลา ทำให้ปลาลอยหัว ลำตัวด่างเป็นปล้องๆ และจะทยอยตายหมด
การป้องกันรักษา ควรขนส่งลูกปลาในความหนาแน่นที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการขนส่งและปล่อยปลาในช่วงอากาศร้อน และหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนขณะขนย้าย ส่วนการักษาใช้ฟอร์มาลีน 40-50 ซีซี.ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่นาน 24 ชั่วโมง แต่การใช้ยาใส่ลงในบ่อดินมักไม่ได้ผล การป้องกันจะให้ผลดีที่สุด
No comments