คาร์โบไฮเดรต-ไขมัน - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

คาร์โบไฮเดรต-ไขมัน

บทความ > การเพาะและการเลี้ยงปลาดุก > อาหารปลาดุก
2. คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานที่มีอยู่ในพืชเป็นจำนวนมาก เป็นอาหารที่ถูกสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ราก หัว ใบ ลำต้น แหล่งคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญคือ รำ ปลายข้าว มันสำปะหลัง ข้าวกล้อง แป้งสาคู เป็นต้น คว ามสามารถในการย่อยคาร์โบไฮเดรตของปลาขึ้นอยู่กับปริมาณที่มีอยู่ในอาหารปลา ถ้ามีมากความสามารถในการย่อยจะลดน้อยลง และยังขึ้นอยู่กับความสุกของอาหารด้วย ปลาจึงย่อยข้าวหรือแป้งที่สุกแล้วได้ดีกว่าดิบปลาไม่มีความต้องการคาร์โบโฮเดรตเลยเพราะปลาสามารถเจริญเติบโตได้ดีด้วยอาหารที่ไม่มีคาร์โบไฮเดรต แต่ผู้ผลิตอาหารยังใส่คาร์โบไฮเดรตลงในอาหาร ทั้งนี้เพราะคาร์โบไฮเดรตหาง่ายและราคาถูก และถ้าใส่ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปจะทำให้ปลาเจริญเติบโตดีขึ้นและลดต้นทุนการผลิตได้ดีอีกด้วย

เนื่องจากปลาดุกสามารถใช้ประโยชน์จากแป้งได้ดีพอสมควร ดังนั้นส่วนผสมของอาหารปลาดุกอาจมี ข้าวโพด ปลายข้าว หรือมันสำปะหลังอยู่ในปริมาณ 25-30 เปอร์เซ็นต์ หรือว่า 40-50 เปอร์เซ็นต์ ก็จะช่วยเพิ่มผลผลิตของปลาให้สูงขึ้นและลดต้นทุนค่าอาหารลงได้

3.ไขมัน การใช้ไขมันผสมในอาหารปลาดุกก็เพื่อเป็นแหล่งพลังงาน และเป็นตัวให้กรดไขมันแก่ปลา ไขมันมีความจำเป็นต่อการดำรงชีพ การเจริญเติบโต และการสืบพันธุ์ของปลา เป็นตัวช่วยละลาย ดูดซึม และนำวิตามิน ที่ละลายในไขมันและไขมันชนิดอื่นจากลำไส้ไปที่ตับและไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อหุ้มหัวใจ สมอง และประสาท เป็นกำเนิดของออร์โมนที่เกี่ยวกับสืบพันธุ์ และควบคุมการหลั่งฮอร์โมนที่ควบคุมความดันโลหิตและการหดตัวของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ไขมันในอาหารยังสามาถทำให้อาหารอัดเม็ดได้ดี มีฝุ่นน้อย และมีรสชาติดีชวนรัปประทาน

กรดไขมันในอาหารที่ปลาดุกต้องการเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว มีจุดหลอมเหลวต่ำ โดยเฉพาะกรดไลโนลีนิกหรือโอเมกา-3 ซึ่งพบมากในน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปลาที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ อาหารปลาดุกควรมีไขมันทั้งหมด 6-8 เปอร์เซ็นต์ แต่โดยปกติแล้ววัตถุทีนำมาผสมอาหาร เช่นปลาป่น กากถั่วเหลืองไม่อัดน้ำมัน กากงารำ จะมีไขมันอยู่บ้างแล้วจึงมักจะเดิมไขมันลงไปเพียง 1.5–4 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับของสารอาหารอื่นในอาหารและปริมาณไขมันจากวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหาร

No comments
Back to content