ชนิดของปลาที่ควรจะเลี้ยงในกระชัง - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

ชนิดของปลาที่ควรจะเลี้ยงในกระชัง

บทความ > การเลี้ยงปลา
ปลาที่นิยมเลี้ยงในกระชังมีหลายชนิด แต่ที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบัน ได้แก่ ปลาบู่  ปลานิล ปลาดุก ปลาสวาย ปลาชะโด เป็นปลาน้ำจืดที่นิยมเลี้ยงในกระชังไม้ไผ่ และกระชังไม้ตามแหล่งน้ำต่างๆ ในจังหวัดภาคกลางส่วนปลาน้ำกร่อยที่นิยมเลี้ยงได้แก่ ปลากะพงขาว และ ปลากะรัง ซึ่งนิยมเลี้ยงในในกระชังอวนบริเวณชายฝั่งทะเลในภาคใต้และภาคกลาง
ปลานิล

ปลาไน

ปลาช่อน

ปลาเทโพ

ชนิดของปลาที่ควรจะเลี้ยงในกระชัง ควรมี ลักษณะดังนี้

ก. ในแง่ชีววิทยาและสรีระวิทยา
1. โตเร็ว
2. กินอาหารสมทบที่ให้
3. สามารถเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อได้ดี
4. สามารถอยู่ได้หนาแน่นแออัด
5. ทนต่อสภาวะแวดล้อมโดยเฉพาะในน้ำที่มีก๊าซ ออกซิเจนต่ำ
6.ทนทานและมีความต้านทานโรคสูง
7. หาลูกปลาได้สะดวก มีปริมาณพอเพียง

ข. ในแง่เศรษฐกิจ
1. ราคาซื้อขายสูง
2.ชายง่าย ขายสดไม่ต้องผ่านกรรมวิธีมาก
3. ชนิดที่ตลาดต้องการ

ปลาน้ำจืดที่มีความต้านทานที่เหมาะจะเลี้ยงในกระชังมี อยู่ 5 ครอบครัว คือ
ไซพรินิดี (Cyprinidae)ได้แก่ ปลาไน
ซิลูริดี (Siluridae)ได้แก่ ปลาสวาย ปลาเทโพ
คลาริไอดี (Clarlidea)ได้แก่ ปลาดุก
โอฟิเซฟาลิดี(Ophicephalidae) ปลาช่อน และ
ซิคลิดี (Cichlidae) ได้แก่ ปลาในสกุลตีลาเบีย ชนิดต่างๆ เช่น ปลานิล
ผลการทดลองปรากฏว่าปลานิล เหมาะแก่การเลี้ยงในกระชังมาก มีการเจริญเติบโตดีและมีอัตรา รอดสูง กินอาหารเม็ดและเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อได้ดี มีความ ต้านทานโรคสูงและสามารถปรับตัวอยู่ได้หนาแน่น

ข้อเสียของปลาสกุลตีลาเบียที่เลี้ยงในบ่อดินก็คือ อัตราการขยายพันธุ์ปลาสกุลตีลาเบีย เช่น ปลาหมอเทศ มีอัตราการ ขยายพันธุ์รวดเร็วมาก จึงทำให้การเจริญเติบโตชะงักงัน แต่เมื่อ นำไปเลี้ยงในกระชัง การสืบพันธุ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก ปลาไม่สามารถทำหลุมวางไข่ในกระชังลอย ในปัจจุบันได้มีการ ทดลองเลี้ยงปลาหลายชนิดรวมกันในกระชัง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตปลาสูงขึ้น โดยปลาร้อยละ 64 ปลาลิ่นร้อยละ 18และปลาซ่งร้อยละ 18 ในระยะเวลาเลี้ยง 117 วัน ปลาไนจะ โตจาก 110 กรัม เป็น 540 กรัม ปลาลิ่นจะโตจาก 150 กรัม เป็น 370 กรัม และปลาซ่งจะโตจาก 17 กรัม เป็น 200 กรัม

กระชังที่เลี้ยงปลาควรจะทำด้วยวัสดุที่มีราคาถูก มีความคงทนและง่ายต่อการรักษาดูแล แต่ในทางปฏิบัตินั้นก็แตกต่างกันไปตามท้องที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่มีใช้อยู่ในท้องที่นั้นๆ รวมทั้ง รูปแบบและการลงทุนซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะทางเศรษฐกิจ

อัตราการปล่อยและผลผลิตปลาในกระชัง
ชนิดของปลาที่เลี้ยงในกระชัง คือ ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาช่อน ปลาบู่ ปลาตะเพียน ปลาตะโกก อัตราการปล่อยลูกปลา ขนาด 3.8 - 6.3 เซนติเมตร ปลาช่อน 80 ตัวต่อตารางเมตร ปลาสวาย ปลาเทโพ 83 ตัวต่อตารางเมตร ปลาตะเพียน 361 ตัวต่อตารางเมตรและปลาไน 107 ตัวต่อตารางเมตร เมื่อเลี้ยงครบหนึ่งปี ผลผลิตในปริมาตร น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตรจะได้ปลา ตะเพียน 45.5 กิโลกรัม ปลาสวายหรือปลาเทโพ 62.1 กิโลกรัม ปลาช่อนชะโด 112.8 กิโลกรัม และปลาไน 133.3 กิโลกรัม สรุปแล้วจะเห็นว่าการเลี้ยงปลาไนในกระชัง ให้ผลผลิตสูงกว่า การเลี้ยงปลาในบ่อ 10-20 เท่า


No comments
Back to content