อาหารที่ให้พลังงานและการเจริญเติบโต - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

อาหารที่ให้พลังงานและการเจริญเติบโต

บทความ > การเลี้ยงปลา > อาหารและการกินของปลา
อาหารที่ให้พลังงานและการเจริญเติบโต

1. อาหารแป้ง
แป้งเป็นอาหารพลังงานที่มีราคาถูก แต่ปลาใช้อาหาร แป้งได้ดีไม่เท่าเทียมกันทั้งหมด มีข้อแตกต่างในการย่อยของอาหารแป้งแต่ละชนิด ระดับส่วนผสมของอาหารที่เป็นแป้งมีจำกัด ส่วนผสมของแป้งไม่ควรเกินร้อยละ 12 ของน้ำหนักอาหาร การให้แป้งสูงกว่านี้จะเพิ่มไกลโคเจนในตับ ซึ่งจะทำให้ ปลาตาย

ในสัตว์ชั้นสูงที่ใช้แป้งเป็นกำลังงาน จะเก็บไกลโคเจนเป็นกำลังสำรองซึ่งพร้อมที่จะใช้ได้ทันทีและจะเก็บไขมันไว้ สำหรับใช้ในอนาคต ในปลาเทราต์และปลาแซลมอน ปรากฏว่า การใช้แป้งเป็นกำลังงานใช้ได้ทันทีและอาจเก็บไว้ในรูปไกลโคเจนในตับและในกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของการเก็บกำลังงานดัง กล่าวจะช่วยให้ปลามีอัตราการรอดตายสูง เมื่อสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป

2. อาหารโปรตีน
ปลาส่วนใหญ่ต้องการอาหารโปรตีน ซึ่งได้จากพืช และสัตว์ ปลาเทราต์และปลาแซลมอนซึ่งตามธรรมชาติเป็นปลากินเนื้อ แต่สามารถกินพืชได้เมื่อเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป

ความต้องการอาหารโปรตีนเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดปลาขนาดเล็กซึ่งเจริญเติบโตเร็ว ต้องการอาหารโปรตีนสูงกว่า ปลาใหญ่ซึ่งเติบโตช้า ก่อนฤดูวางไข่ปลามีความต้องการอาหาร ที่มีโปรตีนสูง เพื่อผลิตไข่และเชื้อตัวผู้

ความต้องการอาหารโปรตีนจะเพิ่มมากขึ้น เมื่ออุณหภูมิสูง และจะใช้อาหารโปรตีนน้อยลงเมื่ออุณหภูมิต่ำ ปลาอาจใช้โปรตีนเป็นแหล่งพลังงานทดแทน หากแหล่งพลังงานจากไขมันและแป้งมีไม่เพียงพอ ปลามีความต้องการโปรตีนที่ประกอบ ด้วยกรดอะมิโน (amino acid) ทั้ง 10 อย่างในระดับเดียวกับสัตว์ชั้นสูง

อาหารโปรตีนมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต โปรตีนที่ดีขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณของกรดอะมิโนที่สัตว์ต้องการอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาควรมีกรดอะมิโนใกล้เคียงกับอาหารธรรมชาติ กรดอะมิโนที่มีอยู่ในตัวปลาช่วยเป็นเครื่องชี้ความต้องการของปลา อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาไน ควรจะมีส่วนประกอบที่เป็น พืชและสัตว์ การใช้พวกพืชในส่วนผสมอาหารสูง จะทำให้ดุลของกรดอะมิโนในอาหารไม่พอดี

ปลากินเนื้อต้องการโปรตีนสูงประมาณร้อยละ 75 แต่ ปลากินอาหารไม่เลือก เช่น ปลาไน ต้องการโปรตีนน้อย อัตราส่วนโปรตีนต่อแป้งเป็น 1 : 7 - 1 : 8 ซึ่งใกล้เคียงกับสัตว์บก

3. อาหารไขมัน
ไขมันจะถูกดูดซึมเข้าทางผนังบุทางเดินอาหาร ไพโลริกซีคา (pyloric caeca) ทำหน้าที่ดูดซึมไขมัน อัตราการดูดซึมไขมันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจุดหลอมตัวของไขมัน

อาหารไขมันจำเป็นสำหรับปลาเช่นเดียวกับสัตว์ชั้นสูง เมื่อให้ในอัตราที่พอเหมาะ จะทำหน้าที่เป็นพลังงานเสริมอาหารโปรตีนในการเจริญเติบโต ทำให้การใช้อาหารโปรตีนลดลงร้อยละ 18

การเพิ่มไขมันในส่วนประกอบอาหารที่มีโปรตีนพออยู่แล้ว จะทำให้ปลามีไขมันมาก และบางที่จะทำให้ปลาตายได้ เนื่องจากการสะสมน้ำมันในตับ

การเก็บไขมันไว้ในตัวปลา เกิดจากมีปริมาณแคลอรีเหลือเฟือในอาหาร ความต้องการแคลอรีจะเปลี่ยนแปลงตาม ฤดูกาล ความต้องการพลังงานในฤดูร้อนจะสูงกว่าในฤดูหนาว

ปฏิกิริยาทางสรีรวิทยามีส่วนทำให้ปลาเก็บไขมันไว้ในตัว ปลาก่อนระยะการสุกของรังไข่ ไขมันดังกล่าวอาจเก็บไว้ใน กล้ามเนื้อ ในตับ การเก็บไขมันก็เพื่อสำรองพลังงานสำหรับการทำงานของร่างกายในระยะที่ปลาไม่กินอาหาร

ปลาก็เช่นเดียวกับสัตว์ชั้นสูง เมื่อเจริญเติบโตขึ้นจะเพิ่มไขมันในตัว ทั้งนี้เนื่องมาจากปลาจะลดอัตราการเจริญเติบโต ลดการเคลื่อนไหวและลดอัตราการทำงานของส่วนต่างๆในร่างกายเมื่อเติบโตขึ้น

อาหารเลือแร่และวิตามิน
แคลเซียม ฟอสฟอรัส โคบอลต์ คลอไรด์ซัลเฟตและสทรอนเซียม เป็นธาตุที่ปลาต้องการ ธาตุเหล่านี้อาจดูดซึมได้โดยตรงจากในน้ำและจากอาหาร การให้อาหารที่มีธาตุสูงกว่าระดับที่จะขับถ่ายได้ อาจทำให้ปลาตายได้

ปลาจะดูดซึมเอาคลอไรด์จากเกลือ (โซเดียมคลอไรด์)ที่ละลายอยู่ในน้ำไปใช้ ปลาจะเอาไอโอดีนจากอาหารเข้าไปยังต่อมไทรอยด์และส่งกลับสู่เส้นทางเดินโลหิตในรูปของไทรอกซิน วัฏจักรของไอโอดีนของปลาคล้ายคลึงกับสัตว์ชั้นสูง การทดสอบการใช้โคบอลต์ผสมกับอาหารปลาในอัตรา 0.08 มิลลิกรัม ปรากฏว่าทำให้เม็ดเลือดแดงในปลาในสูงขึ้นและทำให้ลูกปลา
ไนมีอัตรารอดตายสูงและเจริญเติบโตดี

วิตามินจำเป็นสำหรับปลา ปลาที่ขาดวิตามินจะเกิดโรค หลายอย่าง ทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ผิดปกติ ปลาสามารถเก็บวิตามินที่ละลายในไขมันไว้ในตัวได้มากพอควร

No comments
Back to content