การเลี้ยงกบในคอก - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

การเลี้ยงกบในคอก

บทความ > การเลี้ยงกบ
การเลี้ยงกบในคอก
เป็นการเลี้ยงกบอีกแบบวิธีหนึ่ง พื้นที่ ในการเลี้ยงต้องมีการปรับพื้นที่ให้มีความ สม่ำเสมอ แล้วทำการขุดแอ่งไว้กลางคอกเช่น
คอกขนาดที่มีความกว้างคูณยาว 4 X 4 เมตร (เลี้ยงได้ไม่เกิน 1,000 ตัว)
คอกขนาด 6 X 6 เมตร (เลี้ยงได้ไม่เกิน 1,200 ตัว)
คอกขนาด 8 x 8 เมตร (เลี้ยงได้ไม่เกิน 2,500 ตัว)
และต้องทำแหล่งน้ำขนาด 2 X 3 เมตร มีความลึกประมาณ 20 เซนติเมตร แล้ว ทำการเหยียบดินให้แน่นจากนั้นนำไม้มาพาด ไว้ด้านบน และผูกให้ติดกับคร่าว ห่างช่วงละ 1 เมตร แล้วนำทางมะพร้าวมาพาดให้เต็ม แต่ อย่าให้แน่นจนเกินไป แล้วหากระบะไม้หรือ กระบอกไม้ไผ่ใหญ่ๆ มาวางไว้ในคอกเพื่อให้ กบได้หลบซ่อนตัวของมันในเวลากลางวัน

การเลี้ยงกบในกระชัง
การเลี้ยงกบในกระชังก็นับเป็นการ เลี้ยงกบของอีกวิธีหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมทั่วไปเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการ เลี้ยงกบในบ่อดินและการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ แล้ว ผลปรากฏว่าการเลี้ยงกบแบบการเลี้ยง ในกระชัง นั้นใช้ต้นทุนต่ำและน้อย ประหยัด เวลาในการเลี้ยงกว่า เพราะไม่ต้องมีการ ถ่ายเทน้ำออก และไม่ทำให้กบตกใจง่ายด้วย การเลี้ยงกบในกระชังก็จะเหมือนกับวิธีการ เลี้ยงปลาในกระชังเหมือนกัน กระชังดังกล่าว มื่อเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดจนกลายเป็นกบเต็ม วัยแล้ว จึงทำการคัดขนาดของลูกกบที่จะนำ ไปเลี้ยงในบ่อซีเมนต์หรือกระชังอื่นๆ หรือ จำหน่ายส่วนที่เหลือ ก็เลี้ยงต่อในกระชังไป พื้นที่ใต้กระชังจะใช้แผ่นกระดานหรือโฟม สอดด้านล่าง เพื่อให้เกิดส่วนนูนในกระชัง และให้กบได้ขึ้นไปอยู่อาศัย ส่วนรอบๆของภายนอกกระชังใช้วัสดุประเภทพวกแฝก
หญ้าคา ทางมะพร้าว เพื่อไม่ให้กบมองเห็น ทิวทัศน์จากภายนอกกระชัง มิเช่นนั้น กบจะ ใช้กำลังภายในกระโดดหนีจะเป็นเหตุทำให้ กบปากแตกเสีย และกินอาหารไม่ได้

การเลี้ยงกบอย่างมืออาชืพ
– หากต้องการให้กบที่เลี้ยงเจริญเติบโต เร็ว แข็งแรงไม่มีโรค ผู้เลี้ยงต้องคอยหมัน เปลี่ยนถ่ายนำตามกำหนด เพื่อป้องกันน้ำเสีย เน่าเหม็น อันเป็นผลสาเหตุที่ทำให้กบนั้นเป็นโรคโตช้าหรือตาย
- ในฤดูหน้าแล้งผู้เลี้ยงกบต้องหาน้ำมารดบ่อกบให้ชีนอยู่เสมอเสมือนเป็นฤดูเหมือนหน้าฝน
- การผสมพันธุ์และวางไข่ของกบโดย ตามธรรมชาติจะอยู่ในช่วงของหน้าฝน มีน้ำขังตามห้วยหนอง เหมาะสำหรับการฟักตัวออกจากไข่และการอยู่รอดของลูกกบ
– บริเวณหรือทำเลในการผสมพันธุ์และ วางไข่จะต้องในสถานที่หรือบริเวณในที่ เดียวกัน และควรมีสุมทุมพุ่มไม้ขึ้นอยู่หนา แน่นพอสมควร
– หลังจากไข่กบฟักออกมาเป็นตัวแล้ว ลูกกบจะมีลักษณะเหมือนลูกปลาให้รีบ ทำการซ้อนนำลูกกบมาปล่อยลงเลี้ยงในบ่อ อนุบาลในระยะแรกก่อนที่ถุงของไข่แดงที่ติด มากับตัวลูกกบจะยุบหมด สำหรับจำนวนลูก กบที่จะปล่อยนั้นประมาณ 2,000 ตัว/ตาราง
- การให้อาหาร ได้แก่ ไรแดง และ อาหารปลาอย่างผงหรือไข่ตุ่น ซึ่งควรเตรียมไว้ก่อนในบ่อ พอถุงไข่แดงยุบลูกกบก็จะ สามารถกินอาหารได้เลย
- การถ่ายเทน้ำ ควรกระทำทุกวัน วัน ละ 50-70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนน้ำในบ่อ ทั้งหมด
- ควรให้อาหารกับน้ำ เพื่อให้น้ำมี สภาพสะอาดจะทำให้ลูกกบกินอาหารได้มาก และเจริญเติบโตเร็ว
- การเจริญเติบโตของลูกกบ หลังจาก ฟักออกจากไข่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะมีขา หลัง 2 ขาโผล่ออกมา จากส่วนท้ายของลำตัว ที่บริเวณโคนขา เมื่อขาหลังเจริญเต็มที่ก็จะมี ขาหน้าโผล่ออกมาอีกทั้ง 2 ข้าง ของช่อง เหงือกทางด้านหน้าของลำตัว
– หางจะเริ่มหดสั้นลง ปากจะเริ่ม สมบูรณ์ขึ้น สามารถขึ้นกินอาหารได้เช่นเดียว กับกบตัวโต ซึ่งระยะเวลาในการเจริญเติบโต นี้จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 25-35 วันจากลูกอ๊อดมาเป็นกบเลิก

No comments
Back to content