เรื่องกบๆ
บทความ > การเลี้ยงกบ
กบ(Frog)
(RANA RAGULOSA)
กบเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ คือสามารถอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ มีรูปร่างลักษณะค่อนข้างกลมรี มีขา 2 คู่ ส่วนคู่หลัง จะยาวกว่าหัวสั้นกว้างจะแนบติดกับลำตัว จะงอยปากสั้นทู จมูกตั้งอยู่ตรงบริเวณโค้ง ตอนปลายของจะงอยปาก นัยน์ตาโต และมี หนังตาปิดเปิดได้ ปากกว้าง มีฟันเป็นแผ่นๆ อยู่บนกระดูกเพดาน
ตัวผู้จะมีลักษณะเล็กกว่าตัวเมีย และมีถุงเสียงอยู่ใต้คาง ขาคู่หน้าสั้น มีนิ้ว 4 นิ้ว ปลายนิ้วเป็นตุ่มกลม ขาคู่หลังยาวมี 5 นิ้ว ระหว่างนิ้วมีหนังเป็นพังผืด สีของลำตัวด้าน หลังเป็นสีเขียวปนน้ำตาล มีจุดสีดำกระจาย เป็นปุ่มทั่วตัว จับสัมผัสดูหนังกบจะเรียบ โดยธรรมชาติแล้วกบจะมีนิสัย ตกใจง่าย ชอบอยู่ตามลำห้วย หนอง คลอง บึง แม่น้ำ ป่าเขา และท้องนา
ทุ่งนา กบจะชอบกิน กุ้ง ปลา แมลง และสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร แต่เนื่องจากสภาพและสถานการณ์ของความเป็นจริง การเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบัน อัตราการเพิ่มของประชากรนับวันจะมีแต่ทวีคูณสูงขึ้นเรื่อย และปริมาณความต้องการในการบริโภคอาหารก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวอย่างไม่มีทางเลี่ยง
ในขณะเดียวกันทรัพยากรที่เคยมีอยู่ ตามธรรมชาติ หรือแม้แต่ผลิตผลทางการ เกษตรก็มีแต่ร่อยหรอลดน้อยลงเป็นไปในลักษณะผกผัน โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกษตรกร ต้องขวนขวายหาแนวทางในการประกอบ อาชีพใหม่ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้ ครอบครัวของตนเองโดยการประกอบอาชีพ การทำไร่นาส่วนผสม การเลี้ยงกบ หรือ สัตว์ น้ำชนิดอื่นๆ เช่นการเลี้ยงปลาชนิดต่างๆ แต่ ณ ปัจจุบันนี้การเลี้ยงกบนั้น เป็นที่สนใจและต้องการของเกษตรกรเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า กบนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ใช้เวลาและต้นทุนน้อย ดูแลรักษา ง่าย และที่สำคัญ เมื่อจำหน่ายสู่ท้องตลาด แล้ว ผลกำไรนั้นเป็นที่พอใจและคุ้มทุนได้เป็น ของเกษตรกรอย่างดี
โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ ตลาดในต่างประเทศ ต่างต้องการกบนาของเกษตรกร เพราะกบนามรสชาติอร่อย ไทยเราอย่างเปิดกว้าง และกำลังเป็นที่ ต้องการยิ่ง
กบนาเป็นผลผลิตของเกษตรกรไทยเรา โอกาสดีที่จะนำออกส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศนั้นมีโอกาสมากเช่นกัน จึงเป็นอีก ของสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกษตรกร ได้หันมาให้ ความสนใจในการประกอบอาชีพในการเพาะ เลี้ยงกบมีมากขึ้น เพราะ ณ ปัจจุบันปริมาณ กบที่มีอยู่ตามแหล่งของธรรมชาตินั้น มี จำนวนลดน้อยร่อยหรอลงไปทุกที สาเหตุก็ มาจากแหล่งที่อยู่อาศัยหรือระบบนิเวศของ กบนั้นได้ถูกทำลายโดยน้ำมือของมนุษย์เรา นี่เอง รวมทั้งการปลูกสร้างต่างๆ โรงงาน อุตสาหกรรม การใช้ยากำจัดวัชพืช กำจัดปูนา
No comments