พันธุ์กบที่นิยมเลี้ยง
บทความ > กบฝ่าวิกฤต
เมื่อนำกบนามาผสมกับบลูฟร็อก จะได้ลักษณะเด่น คือ เลี้ยงง่าย โตเร็ว มีความอดทนและความต้านทานโรคสูง ประการสำคัญคือ ได้กบนาที่รูปร่างสรีระใหญ่ขึ้น เสริมความต้องการของตลาดผู้บริโภค ปัจจุบันนิยมเลี้ยงกบนาผสม บลูฟร็อกกันอย่างแพร่หลายแล้ว แต่ที่นิยมกันมากจะใช้พ่อพันธุ์กบนาที่ลักษณะแข็งแรงทนต่อโรคผสมกับแม่พันธุ์กบจาน ที่มีลักษณะเลี้ยงง่ายและมีสีเหลืองตรง ตามความต้องการของตลาด
กบที่จะใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ควรมีความสมบูรณ์ที่สุด สมบูรณ์ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ ร่างกายแข็งแรงนั้นดูง่าย เลือกเอาตัวที่ แข็งแรง มีกล้ามเนื้อสมสัดส่วน ปราด เปรียวว่องไว ส่วนสุขภาพจิตใจของกบสังเกตได้จากความคึกคัก อาการ ดวงตากบแจ่มใสพร้อมที่จะกระโดด หลบหนีเมื่อมีภัยมาหรือกำลังจะถูกจับ ถ้าเป็นกบที่เชื่องซึมหงอยเหงาจับง่ายไม่ ดวงตาขุ่นหมอง ไม่ควรเลือกเอามา เป็นพ่อแม่พันธุ์เด็ดขาด
พันธุ์กบที่นิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบันนี้ก็คือ “กบนา” เป็นกบที่ตลาดมีผู้บริโภคมากที่สุด ตัวโตเต็มที่ยาวประมาณ 5 นิ้ว น้ำหนัก ตัวโดยเฉลี่ยประมาณ 4 ตัวต่อกิโลกรัม เป็นกบขนาดกลางถึงค่อนข้างใหญ่ ผิวมี สีเขียวปนน้ำตาลมีจุดดำกระจายเป็นประ อยู่ทั้งตัว ขาคู่หน้าสั้นมี 4 นิ้ว และขาคู่หลังยาวมี 5 นิ้ว นิ้วมีแผ่นหนังระหว่างนิ้วเกือบสุดปลาย บริเวณปลานิ้วจะไม่มีแผ่นยึดเกาะ นิ้วเท้าเป็นปุ่มเล็กน้อย ต้านบนมีแถบสีดำพาดเป็นตอนๆ ละประมาณ 10 แถบ มีขาลายพรางสีน้ำตาล ที่บริเวณใต้คางจะมีจุดสีเทา หัวสั้นเป็นรูปสามเหลี่ยม
นอกจากนี้มีการนำกบนาไปผสมข้ามพันธุ์กับกบพันธุ์บลูฟร็อก เป็นกบที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อารามบ้านซ่องอยู่แถวตะวันตกของเทือกเขาร็อคกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาโน่น กบบลูฟร็อกเป็นกบที่มีขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 8 นิ้ว ผิวหนังจะเรียบ แต่ก็มีที่ขรุขระบาง ลำตัวมีสีเขียวถึงดำ มีจุดสีน้ำตาล ส่วนหน้าจะมีสีเขียว ที่บริเวณขาหลังมีลาย
พาดขวางใต้ขามีสีเขียว ใต้คางมีสีเหลือง
รูปแบบบ้านอยู่อาศัยของกบก็อยู่ที่แต่ละคนจะคิดทำกัน แต่โดยมาตรฐาน การเลี้ยงกบเพื่อเป็นการค้านิยมเลี้ยงกบในบ่อปูน ลักษณะนี้จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มกว่าแบบอื่น ๆ แต่หากจะเลี้ยงเพื่อพอเพียงในรูปแบบของการทำเกษตรแบบพอเพียงเท่านั้น
บ้านกบจะเป็นแบบใดก็ได้ ขอให้กบอยู่อย่างมีความสุข ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีสุขภาพแข็งแรง โตเร็ว กินได้ ถ่ายคล่อง ปี้เก่ง ให้ลูกดกเป็นใช้ได้ สบายใจคนเลี้ยงแล้ว
การเลี้ยงแม่พันธุ์กบควรมีโรงเรือนแยกเลี้ยงต่างหาก นอกเหนือไปจากบ่อ ใหญ่ที่ใช้เลี้ยงลูกกบในปริมาณมากๆ โรงเรือนพ่อแม่พันธุ์กบไม่ควรกว้างขวางมากนัก กว้างประมาณ 1 - 2 เมตร ยาวประมาณ 2 – 3 เมตรก็พอ ควรทำเป็นบ่อทึบ ก่ออิฐบล็อก 4 ด้าน ด้านบนบ่อใช้กระเบื้องลอนคู่ใหญ่ปิดป้องกันแสงแดดเข้า เพราะ กบไม่ชอบแสงแดดจ้าๆ ทั้งวัน การให้อาหารและการดูแลที่ผ่านทางปากบ่อกบนั้นเอง
No comments