เน้นขายตามชุมชน
บทความ > กบฝ่าวิกฤต > ประสบการณ์ของเกษตรกร
“ผมเน้นขายตามชุมชน ไม่เน้นขายเชิงพาณิชย์ ขณะเลี้ยงก็มีเพื่อนบ้านมาขอซื้อกบอยู่เรื่อยๆ สำหรับราคาขายไม่ได้อิงราคาตลาด คือ ขอขายราคาเดียว 80 บาทต่อกิโล ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนก็ตาม หน้าหนาวกบในตลาดมีน้อยราคาสูง ผม ก็ขายกิโล 80 บาท หน้าฝนกบมีมากราคาตก ผมก็ขาย 80 บาท ยึดราคาเดียวเป็นที่รู้กัน
สำหรับพ่อแม่พันธุ์ที่จะต้องใช้ลูกกบมาเลี้ยงคราวต่อไป “คุณชาตรี” บอกว่า “ผมคัดแม่พันธุ์เอาไว้อย่างเดียว พ่อพันธุ์ไปซื้อจากฟาร์มอื่นมาผสมป้องกันไม่ให้เกิด เลือดชิด จะทำให้ลูกกบที่เกิดมาพิการมาก โตช้า ลูกกบออกมาผิดรูปร่าง”
หลังจากคัดได้แม่พันธุ์แล้วก็เอาไปเลี้ยง ในบ่อเลี้ยงต่างหาก เป็นบ่อแม่พันธุ์เลย ใช้บ่อ รองวงกลมก็ได้หรือทำเป็นบ่อปูนกว้าง 2 x 3 เมตร บ่อจะใหญ่หรือเล็กกว่านี้ก็ได้สุดแล้วแต่พื้นที่ที่มีอยู่ และจำนวนประชากรแม่พันธุ์ใน 1 บ่อแม่พันธุ์ต้องไม่อยู่กันแออัด ไม่มากเกินไป ให้แม่พันธุ์อยู่กันแบบสบายๆ ไม่อึดอัดจะดีกว่า อาหารใช้อาหารกบใหญ่ได้เลยให้วันละ 2 มื้อ
ส่วนพ่อพันธุ์ก็เลือกตัวที่ล่ำบึกกล้ามใหญ่เนื้อเยอะ พ่อพันธุ์จะมีกล่องเสียงสีดำๆ อยู่ใต้คางเป็นถุงลม เวลาร้องถุงลมจะโป่งพอง แต่ไม่ได้หมายความว่ามันสูบบุหรี่จัดจนเป็นโรคถุงลมโป่งพองแต่ประการใด
เมื่อได้ตัวผู้พ่อพันธุ์มาให้แยกเลี้ยงไว้ก่อน จากนั้นคนเลี้ยงต้องเตรียมบ่อเพาะพันธุ์ ต้องทำบ่อต่างหากอีก 1 บ่อ ทำเป็นบ่อปูนดีที่สุด บ่อไม่ต้องกว้างมากนัก ความสูงของบ่อเท่ากับอิฐบล็อก 5 ก้อนเรียงต่อกัน พื้นบ่อเทปูนใส่น้ำได้ ให้ทำความสะอาดบ่อเพาะพันธุ์ ตาก ฆ่าเชื้อ โรคอย่างดีก่อนใส่น้ำลงไปพอประมาณ แค่ระดับหน้าอกกบใหญ่
เมื่อบ่อเพาะพันธุ์พร้อม ก็ให้ปล่อยแม่พันธุ์พ่อพันธุ์ลงไปในบ่อเดียวกันในตอนเช้า ใช้พ่อพันธุ์มากตัวกว่าตัวเมีย เช่น แม่พันธุ์ 10 ตัว ให้ใช้พ่อพันธุ์ 20 ตัวเป็นอย่างน้อย
ตกกลางคืนของวันนั้นตัวผู้จะกอดรัดตัวเมียแล้วตัวเมียก็ปล่อยไข่ในท้องออกมา ตัวผู้ที่ขึ้นชี่อยู่ด้านหลังก็จะปล่อยน้ำเชื้อฉีดเข้าไปผสมในไข่ จนเช้าวันรุ่งขึ้นจะแลเห็นไข่กบเป็นเม็ดสาคูจมอยู่กันบ่อเต็มไปหมด จากนั้นก็จับเอาพ่อแม่พันธุ์ ออกกลับไปไว้ในบ่อเดิม
วันแรก ไข่กบจะจมน้ำนิ่งอยู่เช่นนั้น
วันที่สอง จะเห็นว่าไข่เริ่มวิ่งแล้ว มีหางคล้ายๆ ลูกน้ำนานๆ จะวิ่งขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำเสียที่
วันที่สาม จะเห็นเป็นตัวเล็กๆ สีดำมีหางว่ายเวียนกันเต็มบ่อ คนเลี้ยงเริ่มให้อาหารได้แล้ว วันนี้ใช้ไข่แดงบี้ให้เป็นผงใส่ลงไปในน้ำ เจ้าตัวเล็กจะเข้ามาตอดกินกันอย่างอร่อย ให้วันละ 2 มื้อเช้า เย็น พยายามให้เจ้าตัวเล็กได้กินอาหารทุก ตัว และอย่าให้จนอาหารเหลือน้ำจะเน่าเสียเร็ว ระยะนี้เปลี่ยนถ่ายน้ำไม่ดีไม่ควรทำ
วันต่อๆ ไปให้อาหารไข่แดงเหมือนเดิม หรือจะเปลี่ยนเป็นอาหารผงสำหรับ ลูกอ๊อดก็ได้
“คุณชาตรี” บอกว่า การเลี้ยงกบต้องขยัน สำหรับโรคภัยไข้เจ็บของกบที่เลี้ยงแบบรีสอร์ทนั้นกบ ไม่ค่อยมีโรคอะไร กลิ่นคาวก็ไม่มี โรคมองดาวก็ไม่มี จะมีก็แต่พวกที่ไม่กินอาหารแล้วก็ผอมตายบ้าง แต่ก็ ไม่มากนัก เกิดจากการติดเชื้อเสียมากกว่า ดังนั้นน้ำที่ ใช้เลี้ยงกบจะต้องเป็นน้ำสะอาด ต้องรักษาความสะอาด หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวันได้ยิ่งดีใหญ่
“คุณชาตรี” กล่าวอีกว่า การเลี้ยงกบจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก แรกเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ ก็ต้องมีพลาดกันบ้างเพราะอากาศบ้านเราเปลี่ยนตลอด แต่ละปีไม่เหมือนกัน กบจึงต้องปรับตัวมาก อากาศต้องช่วยเขา หนาวมากก็ต้องดูแลให้อบอุ่นขึ้น อากาศหนาวมากกบก็ตายมากจึงต้องดูแลกันเป็นพิเศษ “คุณชาตรี” กล่าวในที่สุด
จนกระทั่ง 1 อาทิตย์ เริ่มให้อาหารพิเศษเรียกว่าขนาดเล็กพิเศษ ให้แค่ลูกกบกินหมดเท่านั้น อย่าให้มากจนเหลือน้ำจะเน่า จนลูกอ๊อดโตประมาณ 10 วันก็จะตักเอา ไปใส่กระชังอนุบาลลูกอ๊อด เลี้ยงไป 1 เดือนจนลูกอ๊อดมี 4 ขาครบเป็น ลูกกบสมบูรณ์ ให้เปลี่ยนอาหารมา เป็นอาหารลูกกบเบอร์ 1 จากนั้นก็ย้ายลูกกบลงบ่อใหญ่ จะเข้าสู่วงรอบของการเลี้ยงกบ แต่แรกที่กล่าวมา
สำหรับพ่อแม่พันธุ์ถ้าพร้อม ผสมในรุ่นต่อไปก็ให้ทำการผสมกัน ได้เลย
No comments