การเลี้ยงกบ
บทความ > กบฝ่าวิกฤต
การทำเกษตรกรรมในทุกด้าน ทั้งปลูกพืช ทำไร่ ทำนา ทำสวน และเลี้ยงสัตว์ ต่างก็มีความยากมากขึ้นเหมือนๆ กันหมด สาเหตุเนื่องมาจากสภาพแวดล้อม ลมฟ้าอากาศ ที่ไม่สามารถ ควบคุมได้ และแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว บางครั้งที่ไม่ต้องตามฤดูกาล ส่งผลกระทบถึงการทำเกษตรของพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ
ประกอบกับสภาพค่าครองชีพในปัจจุบันก็ถีบตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยจนถึงผู้ไม่มีรายได้ต่างก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน เกิดสภาวะค่าครองชีพในครัวเรือนสูง รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายจนเกิดการกู้หนี้ยืมสิน กลายเป็นมีปัญหา “หนี้สิน” ตามมาอีก ซึ่งปัญหาเหล่านี้นับวันจะทวีสูงขึ้น ทั้งสภาพดินฟ้าอากาศที่ปรวนแปรและสภาพค่าครองชีพ
ที่สูงขึ้นมาผนวกเข้าด้วยกัน กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้คนในสังคม ต้องปรับตัวเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้จงได้
สิ่งหนึ่งที่ภาคเกษตรและผู้มีรายได้น้อยจะต้องรีบดำเนินการก็คือ หาทาง “เพิ่มรายได้” นอกเหนือจากงานประจำที่มีอยู่โดยเร็วที่สุด
การหารายได้เพิ่มขนมหลากหลายวิธีการขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ความถนัดในงานอาชีพ และความตั้งใจจริงที่จะทำงาน ในยามที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสังคมเช่นนี้
การเลี้ยงสัตว์ เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะเพิ่มราย ตั้งใจเป็นรายได้เข้ามา ท่านสามารถทำได้ไม่ยุ่งยากหากตั้งใจจริงๆ เราแนะนำ “การเลี้ยงกบ” เป็นรายได้เสริมในครัวเรือน
เลี้ยงกบไม่จำเป็นจะต้องกินกบเสมอไป เลี้ยงกบแล้วไม่กินก็มีมากมี ลองศึกษาถึงวิธีการให้เข้าไจ แล้วประยุกต์การเลี้ยง แบบง่ายๆ ตามความถนัดของท่าน ใช้ระยะเวลาเพียง 3 – 4 เดือนก็สามรถขายกบได้เงินมาแล้ว
การเลี้ยงกบ ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในครัวเรือนี้ เป็นเพียงแนวทางต้นแบบให้ท่านเกิดแนวความคิดของการ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
จงนำคำว่าประยุกต์ มาใช้กับงานเสริมรายได้ให้มากที่สุด บางครั้งมันอาจจะเกิดชิ้นงานที่เป็น “เอกลักษณ์” ของเราเองที่ได้ และนั้นที่หมายถึงความสำเร็จที่จะเกิดตามมานั้นเอง
กลับ ค่าอาหารเช้ายกยอดไปกินกลางวันเพียงแค่นี้เงิน 300 บาทก็แทบจะไม่เหลือและหากต้องซื้อข้าวของอะไรได้อีกค่าแรงวันนั้นก็หมดไป
แม่บ้านท่านหนึ่งบอกว่าข้าวปลาอาหารทุกชนิดแพงหมด สินค้าจำเป็นก็ขึ้นราคา พกเงิน 100 บาทไปตลาดแทบ ไม่มีความหมาย ยิ่งครอบครัวไหนมีลูกมากยิ่งแย่กันไปใหญ่ และที่น่าสงสารเป็นที่สุดก็คือผู้ไม่มีรายได้ ไม่มีงานทำ เรื่องของค่าใช้จ่ายรายวันจะเป็นปัญหามากๆ กับการดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอดของพวกเขา
สำหรับประชาชนที่อยู่ในสังคมเมืองต่างจังหวัดก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกันกับทุกภาคส่วนของสังคมไทย เกษตรของพี่น้องเกษตรกรในปัจจุบันจึง “ทำเกษตรปัจจุบันทำยากมาก ซึ่งจะต่างจากาสมัยก่อน แม้สมัยนี้จะมี เทคโนโลยีเข้ามาช่วยผ่อนแรงมากมายก็ตามที
ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่ค่อน ข้างรุนแรงก่อให้เกิดภาวะค่าครองชีพ ภาคครัวเรือนสูง จนประชาชนผู้มีราย ได้น้อยถึงไม่มีรายได้ในทุกภาคส่วนของ สังคมไทยต่างก็ได้รับความเดือดร้อนกัน ถ้วนทั่วทุกคน ในภาวะเศรษฐกิจที่ข้าวยากหมากแพง ค่าแรงไม่เพียงพอกับค่า ใช้จ่ายที่รุมเร้าอยู่รอบตัวนี้ สร้างปัญหา หนี้สินให้เกิดขึ้นกับทุกคนอย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้
มีหลายๆทฤษฎีพยายามชี้นำให้ประชาชนสลัดแอกความยากจน ให้หลุดพ้นไป แต่นั้นคือทฤษฎี และหลักการ ซึ่งเนื้อหาจริงๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันประชาชนผู้มีรายไต้น้อยต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่มี ทางที่จะกระทำได้” เหตุเพราะในหลักการกับสภาพชีวิตจริงนั้นต่างกันมาก ผู้ใช้แรงงานท่านหนึ่งบอกว่า“ค่าแรงวันละ 300 บาท ถ้ามีลูกที่ต้องไปโรงเรียน เช้าต้องมีค่าใช้จ่ายให้ลูก และให้แม่บ้าน ใช้จ่ายเป็นค่ากับข้าวในตอนเย็น พอออกจากบ้านต้องมีค่ารถไปทำงานทั้งไปและ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานมาโดยตลอด รวมถึงผู้ที่ร่วมให้ข้อมูลทุกท่านด้วยครับร่วมให้ข้อมูลทุกท่านด้วย ขอบคุณครับ
No comments