การปล่อยลูกปลา
บทความ > การเลี้ยงปลาเบญพรรณ > การเลี้ยงปลาสวาย
กรณีที่เป็นบ่อใหญ่ หลังจากที่เตรียมบ่อแล้วไม่จำเป็นต้องตากบ่อก็ได้ แต่บางคนเขาจะพิถีพิถันต้องตากบ่อก่อน ตรงนี้แล้วแต่ความพิถีพิถันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เปรียบเสมือนกับกินข้าว บางคนจะลวกซ้อนด้วยน้ำร้อนก่อน แต่บางคนก็กินเลยไม่ต้องลวกช้อน ซึ่งบ่อปลาก็เหมือนกัน บางคนตากบ่อแต่บางคน ก็ไม่ตากบ่อ
บ่อปลา 1 ไร่ปล่อยปลาสวายได้ประมาณ 4,000 ตัว ปลานิลและปลาตะเพียนให้ลงอย่างละ 30,000 ตัวส่วนปลายี่สกจะใส่ก็ได้แต่ก็ไม่ควรใส่แล้วเพราะ ปลาทั้ง 3 ชนิดมันอยู่รวมกันได้
เมื่อเตรียมบ่อเรียบร้อย ก่อนวันจะนำลูกปลาลงปล่อยในบ่อ 5 วัน ให้ใส่น้ำเข้าบ่อ แล้วใส่ขี้วัว ขี้หมู สาดลงไปให้ทั่วบ่อ ไม่ต้องมากเกินไป เพื่อให้เกิดลูกไรในบ่อ สมมติสั่งลูกปลาไว้วันที่ 1 มกราคมจะนำปลาเลี้ยงในบ่อ ให้นับถอยหลังไปประมาณวันที่ 25 ธันวาคม ให้ใส่น้ำเข้าบ่อแล้วก็ใส่ขี้หมู ขี้วัวให้เกิดลูกไร และแพลงก์ตอนที่ก้นบ่อ พอวันที่ 1 ลูกปลามาก็ปล่อยลงบ่อได้เลย
การปล่อยลูกปลา
เมื่อเตรียมบ่อเตรียมน้ำแล้ว พอลูกปลามาก็ปล่อยลูกปลาลงบ่อ ระดับน้ำระยะนี้ถ้าบ่อลึก 2 เมตรระดับน้ำควรอยู่ที่ 1-1 1/2 เมตร ให้สังเกตด้วยว่าถ้าน้ำเปรี้ยวหรือน้ำคืน น้ำในบ่อจะใส ปลาไม่ชอบ ปลาจะชอบน้ำเขียว หรือน้ำขุ่น หากเราเห็นว่าน้ำยังใสอยู่ก็ให้ใส่ขี้วัวลงไปอีก หรือปล่อยน้ำจากแหล่งน้ำเข้าบ่ออีก ใส่
พอประมาณไม่ต้องมาก มันเหมือนกับเราใส่น้ำในโอ่ง แล้วเอาสารส้มแกว่ง เช้าขึ้นมาน้ำจะใสเพราะตะกอนนอนก้น ตรงนี้ก็เหมือนกัน ถ้าน้ำคืนตัวจะออกเปรี้ยว แล้วตะกอนก็นอนก้น จึงต้องใส่ขี่วัวเพิ่มเพื่อให้เกิดแพลงก์ตอนที่ก้นบ่อ
การใส่ขี้วัวหรือขี้ไก่ก็มีข้อจำกัดเช่นกันคือ อย่าใส่มากเพียงสาดให้ทั่วบ่อก็พอ ถ้าใส่มากจะทำให้น้ำแก่ น้ำดำ ปล่อยปลาลงไปจะเสียหายได้
พันธุ์ปลาที่น่าเลี้ยง
เฮียเม้ง บอกว่าพันธุ์ปลาที่น่าเลี้ยงต้องเป็นปลาที่คนจนกิน คนรวยกินได้ กินได้ทุกระดับ ถ้าเราไปเลี้ยงปลากระพงต้นทุนสูง เลี้ยงปลาบึกก็มีคนเลี้ยงมีคนทำได้ แต่คนจะเลือกกินเพราะราคามันแพง เขาก็เลยไม่อยากจะกินกัน
“ทุกวันนี้คนกินหมูเพราะหมูถูกกว่าเนื้อวัว คนกินไก่เพราะราคาไก่ถูกกว่าหมู มันจะลดหลั่นกัน”
คนบอกว่ากินปลาดีกว่า ไม่มีสารเจือปนปลาที่ตนเลี้ยงเป็นปลาเบญจพรรณ มีราคาและขายได้ง่าย เช่น ปลาสวาย ปลานิล ปลาตะเพียน มีปลายี่สกบ้าง เลี้ยงปลาแค่ 4 ชนิดก็พอแล้ว
No comments