การที่ได้ถ่ายเทน้ำ - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

การที่ได้ถ่ายเทน้ำ

บทความ > การเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย > การเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยในบ่อดิน
การที่ได้ถ่ายเทน้ำ
การที่ได้ถ่ายเทน้ำในบ่อเลี้ยงบ่อยครั้งจะทำให้ปลาโตเร็ว เพราะการที่ปลาได้น้ำใหม่บ่อยๆจะทำให้ปลามีความกระปรี้กระเปร่า และกินอาหารได้มากขึ้น วิธีการถ่ายเทน้ำในบ่อที่ดีควรใช้วิธีสูบน้ำออกและสูบน้ำเข้าพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า ไล่น้ำ น้ำในบ่อก็จะ ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการควบคุมคุณภาพของน้ำในบ่อสำหรับการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยในบ่อดิน ควรเป็นดังนี้

1. ระยะเดือนที่หนึ่ง ในการควบคุมคุณภาพของน้ำในบ่อ ในช่วงการเลี้ยงเดือนแรกซึ่งปลายังเล็กอยู่ จะไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเพิ่มระดับน้ำในบ่อทุกวันหรือวันเว้นวันแล้วแต่สีน้ำ โดยสังเกตว่าน้ำที่ดีจะมีสีเขียวอ่อนค่อนข้างใส ในช่วงเดือนแรกนี้ ถ้ามีการควบคุมการให้อาหารที่ดีอาจจะไม่ต้องถ่ายน้ำเลยเพียงแต่ เพิ่มน้ำลงในบ่อก็เพียงพอแล้ว

ในช่วงของการปล่อยปลาลงเลี้ยงใหม่ๆ ระดับน้ำในบ่อจะมีความลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร เมื่อปลาเจริญเติบโตขึ้นใน เดือนแรกจึงเพิ่มระดับน้ำให้สูงขึ้นจนมีความลึกประมาณ 50-60 เซนติเมตร

2. ระยะเดือนที่สอง พอย่างเข้าเดือนที่สองปลาเริ่มโตขึ้น สิ่งขับถ่ายที่ออกมาจากตัวปลาและเศษอาหารที่เหลือตกค้างอยู่ในบ่อก็จะมีมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการถ่ายเทน้ำ ส่วนปริมาณการถ่ายน้ำและจำนวนครั้งของการถ่ายน้ำออกจากบ่อขึ้นอยู่กับชนิด และปริมาณอาหารที่ให้ หากกำหนดปริมาณการให้อาหารให้ปลากินได้หมด การถ่ายเทน้ำก็จะมีน้อยครั้ง แต่โดยปกติในช่วงเดือนที่สองนี้ มักจะถ่ายน้ำประมาณ 5-7 วันต่อครั้ง โดยถ้าน้ำไม่เสียมากจะ ถ่ายน้ำออกเพียง 25-30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำในบ่อ แต่ถ้าน้ำเสียรุนแรงอาจต้องถ่ายน้ำออกถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำในบ่อหรือครึ่งบ่อ แล้วสูบน้ำเข้าไปเท่าระดับเดิม
นอกจากนี้เมื่อเข้าระยะเดือนที่สองควรเพิ่มระดับน้ำให้สูงขึ้น 10 เซนติเมตรต่อสัปดาห์ ไปจนกระทั่งระดับน้ำในบ่อมีความลึกประมาณ 1.20-1.50 เมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกของน้ำที่ใช้ เลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยขนาดใหญ่ และกักเก็บน้ำให้ได้ระดับนี้ไปตลอด

3. ระยะตั้งแต่เดือนที่สามเป็นต้นไป ระยะตั้งแต่เดือนที่สามเป็นต้นไปปลาจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและแน่นบ่อ อาหารที่ให้ก็ ต้องมากขึ้นตามความต้องการของปลา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของน้ำในบ่อคือ ทำให้น้ำเกิดการน้ำเสียเร็วขึ้น จึงจำเป็นต้องถ่ายน้ำบ่อยครั้งขึ้น โดยดูจากสีของน้ำเป็นเกณฑ์ หากปลากินอาหารน้อยลงหรือมีอาหารเหลือลอยอยู่ในบ่อมากก็ต้องถ่ายน้ำเพื่อช่วย ปลาไม่ให้ตายเนื่องจากน้ำเสีย หรือถ้าในบ่อมีกลิ่นมากและสีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นคล้ายน้ำข้าวจะต้องรีบถ่ายน้ำทันที โดยในระยะนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายน้ำทุกๆ 3 วัน โดยถ่ายครั้งละประมาณ30-50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำในบ่อ

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงปลาก็คือ ต้องดูให้แน่ใจว่าน้ำที่สูบเข้าบ่อนั้นจะต้องมีคุณภาพดีกว่าน้ำในบ่อเลี้ยง โดยคุณสมบัติของน้ำที่ดีควรมีออกซิเจนอยู่ใน ระดับ 5 มิลลิกรัมต่อลิตร มีค่า pH อยู่ระหว่าง 6-7 และสีของน้ำควรเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล

No comments
Back to content