การผสมพันธุ์ - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

การผสมพันธุ์

บทความ > การเลี้ยงปลาน้ำจืด > ปลาจีน
4. การผสมพันธุ์ เมื่อได้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงหลังจากฉีดแม่ปลา ควรเริ่มสังเกตอาการของแม่ปลา เมื่อแม่ปลามีอาการกระวนกระวาย ผิดปกติ ว่ายน้ำไปมาอย่างรุนแรง ควรตรวจสอบแม่ปลาโดยใช้เปลผ้าตักแม่ปลาขึ้นมาตรวจสอบ เมื่อพบว่าไข่ไหลพุ่งออกมาอย่างง่ายดาย ก็นำมารีดและทำการผสมเทียมกับน้ำเชื้อปลาตัวผู้

5. การฟักไข่ เนื่องจากไข่ปลาทั้ง 3 ชนิด เป็นไข่ครึ่งจมครึ่งลอย จึงต้องพักในระบบกรวยฟัก เพียงแต่ต้องลดปริมาณไข่ในแต่ละกรวย
ให้น้อยลง เนื่องจากไข่ปลาเปล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าจึงต้องใช้กรวยฟัก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 เซนติเมตร ลึก 60 เซนติเมตร จะพักปลาจีนได้ประมาณ 20,000-50,000 ฟอง เมื่อระยะผ่านไปประมาณ 20-24 ชั่วโมง จะฟักเป็นตัวที่อุณหภูมิน้ำ 28-30 องศาเซลเซียส
ลูกปลาทั้งสามชนิดเมื่อแรกออกจากไข่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก จะเริ่มกินอาหารภายในระยะเวลา 2-3 วัน การอนุบาลลูกปลาทั้ง ในระยะเวลา 2-3 วันแรกจะให้กินไข่แดงต้มละลายน้ำ ฉีดให้กินวันละหลายๆครั้ง หลังจากนั้นจึงย้ายลูกปลาลงบ่ออนุบาล ซึ่งเป็นบ่อดินที่ เตรียมไว้อย่างดี คือกำจัดศัตรูปลาโดยการโรยปูนขาวและใส่ปุ๋ย น้ำมีสีเขียวในระยะแรกยังให้ไข่เป็นอาหารอยู่ จากนั้นจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็น รำผสมปลาป่น ถ้าปล่อยลูกปลาในอัตรา 1,000-1,500 ตัวต่อตารางเมตร อนุบาล 3-4 สัปดาห์ จะได้ลูกปลาขนาด 2.5 เซนติเมตร
พันธุ์ปลาที่ซื้อจากฟาร์มจำหน่ายลูกปลาส่วนมากจะมีขนาด 3-5 เซนติเมตร มาเลี้ยงโดยเลี้ยงลูกปลารวมกัน ในอัตราส่วนปลาเฉา 5-7 ตัวต่อตารางเมตร ปลาซ่ง 12-15 ตัวต่อตารางเมตร กับปลาลิ่น 12-15 ตัวต่อตารางเมตร เมื่อเลี้ยงได้ขนาด 10-15 เซนติเมตร จึงทำการคัดขนาดลงในบ่อเลี้ยงเพราะปลาขนาดนี้ มีการพัฒนาการทางด้านรูปร่างที่สมบูรณ์ เมื่อคัดขนาดปลา 10-15 เซนติเมตร ออกไปเลี้ยงหรือจำหน่ายแล้ว ควรปล่อยปลาเล็กทดแทนตามจำนวนปลาที่คัดออกไป พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอกและให้อาหารได้แก่กากถั่วลิสงรำ ละเอียด แหนเป็ดวัชพืช เป็นอาหารเสริมเพิ่มเติม
การจัดการบ่อเลี้ยง
จากการศึกษาพบว่าปลาจีนทั้งสามชนิดจะเจริญเติบโตได้รวดเร็ว หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งพอจำแนกได้ดังนี้  ในการเลี้ยงปลาให้ได้ผลผลิตสูง
1. ความลึกของน้ำ 1.5-2.0 เมตร
2. ขนาดขอบ่อควรมีนาด 2-5 ไร่
3. คุณสมบัติของดินต้องเป็นดินปนทรายดีที่สุด เพราะทำการเน่าสลายของพวกอินทรีย์สารดี มีการดูดซึมพวกปุ๋ยและการคงไว้ของพวกเกลือแร่
4. รูปแบบบ่อควรเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งง่ายและสะดวกต่อการจัดการ
5. การทำความสะอาดบ่อ หลังจากเลี้ยงปลาไประยะหนึ่ง พื้นก้นบ่อจะมีตะกอนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นควรทำการลอกเลนกำจัด ตะกอนที่เกิดขึ้นออกจากบ่อ
6. คุณสมบัติของน้ำ ควรมีความเป็นกรดเป็นด่าง 7-8.5 และ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำระหว่างการเลี้ยง ควรสูงกว่า 2 ppm เพราะหากปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำกว่า 2 ppm ปลาจะกินน้ำน้อยลง และจะหยุดกินอาหาร เมื่อออกซิเจนต่ำกว่า 1 ppm ปลาจะลอยหัวและตาย เมื่อออกซิเจนในน้ำอยู่ระหว่าง 0.2-0.5 ดังนั้นเราสังเกตเห็นว่าปลาที่เลี้ยงมีการลอยหัวจะต้องทำการเปลี่ยนน้ำ หรือฉีดพ่นผ่านอากาศลงในบ่อเพื่อเพิ่มออกซิเจน อุณหภูมิที่เหมาะสม
อยู่ระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส

การเตรียมบ่อ
ในกรณีที่เป็นบ่อเก่า ควรปรับปรุงบ่อโดยการนำโคลนหรือซากอินทรียวัตถุที่เหลือออกจากบ่อก่อนที่เราจะปล่อยปลาลงเลี้ยง หากมีอุณหภูมิสูง สารพิษต่างๆ เช่น กรดอินทรีย์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ และแก๊ส  มีเทน จะสลายออกมาจากสารเน่าเปื่อยได้ง่าย สำหรับบ่อที่มีปัญหา เรื่องโรคปลาควรมีการฆ่าเชื้อเสียก่อน และเมื่อพบรอยรั่วหรือรูตาม คันบ่อ ให้รีบซ่อมแซม หลังจากทำความสะอาดบ่อจึงทำการตากบ่อ โดยใช้ปูนขาวและกากชากำจัดศัตรู

หากเป็นบ่อใหม่หากดินเป็นกรดมาก ควรใส่ปูนขาวเพื่อแก้สภาพความเป็นกรดของดินให้เจือจาง อัตราส่วนการใช้ปูนขาว 1 กิโลกรัมต่อเนื้อที่บ่อ 10 ตารางเมตร

การใส่ปุ๋ยให้ระบายน้ำเข้าบ่อประมาณ 30-40 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ย ตากแดดทิ้งไว้ 3-5 วัน จะมีไรน้ำเกิดขึ้น ให้ปล่อยปลาลงเลี้ยง








No comments
Back to content